*****************************************
เห็นท่านพูดท่านเขียนถึงกรณีนายทักษิณจะขอพระราชทานอภัยโทษ ในเชิงออกมาเตือนว่า อย่าเข้ามาผลักภาระในคดีทุจริตให้พระเจ้าอยู่หัว ต้องมาตัดสินพระทัยที่จะพระราชทานอภัยโทษหรือไม่พระราชทานอภัยโทษ จะเป็นการบีบบังคับให้พระเจ้าอยู่หัวต้องเลือกข้าง
ทั้งยังมีกรณีอื่นๆ อีก ท่านพูด ท่านเขียน ที่เกี่ยวกับการปกป้องสถาบัน
ผมจึงอยากถามท่านว่า ท่านไปยุ่งอะไรกับสถาบัน (เสือกอะไร) หรืออยากได้หน้า หิวแสง ต้องการเป็นคนโปรด หรือได้ประโยชน์อะไร
*****************************************
คราวที่แล้วได้ตอบคำถามของคุณผู้ใช้นามว่า ละอ่อนเกม ในประเด็นที่คุณถามมาว่า พุทธะอิสระไปเสือกอะไรกับสถาบันนักหนา
ในกรณีที่นายทักษิณจักยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งก็หวังว่าท่านผู้ถามคงจะพอเข้าใจได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
มาวันนี้ฉันขอตอบคำถามที่คุณตั้งข้อสงสัยมาว่า
เหตุที่พุทธะอิสระทำ อยากได้หน้า หิวแสง
ตอบ ๒ ประเด็นนี้ก่อนว่า ระหว่างได้หน้า กับแสง สำหรับคนอย่างพุทธะอิสระแล้ว ไม่ได้สำคัญเท่ากับ ข้าวต้มกุ๊ยร้อนๆ ๑ ถ้วยดอก ไช้โป้วหวานหนึ่งหัวดอก
ฉันไม่ใช่พวกคุณที่ชมชอบหน้าใหญ่ ไฟกระพริบ
ทุกวันนี้ฉันอยู่ของฉันก็พอดี พอมี พอผ่อนคลายแล้ว ซึ่งก็ได้ความอนุเคราะห์จากลูกหลานชาวครอบครัวธรรมอิสระ ทำไมฉันต้องไปแสวงหาหน้าตา แสงไฟให้มาเป็นภาระ อย่างคุณว่ามาทำไม
โปรดอย่านำบรรทัดฐานของตนมาเทียบกับฉัน มันคนละชั้นกัน
ส่วนคำถามที่ว่า ต้องการเป็นคนโปรดหรือได้ประโยชน์อะไร
ตอบว่า ชั่วชีวิตของพุทธะอิสระถูกพ่อแม่ บรรพบุรุษสั่งสอนว่า ต้องอยู่อย่างจงรัก จะต้องตายอย่างภักดี หากยังมีลมหายใจ มีพลัง จงใช้พลังแทนคุณปฐพี
ส่วนที่คุณถามว่า พุทธะอิสระได้ประโยชน์อะไร
ตอบ
แน่นอนฉันได้แน่ ได้ทำหน้าที่อย่างมีจิตสำนึกของลูกไทย ที่เคยได้รับคุณูปการจากบรรพบุรุษไทย จนได้มาเกิดในแผ่นดินนี้ และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้
แค่นี้พุทธะอิสระก็ถือว่าไม่เสียชาติเกิดมาเป็นลูกไทย หลานไทยแล้ว
คุณก็อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรซับซ้อน ทุกคนมีสิทธิ์ทำได้ คุณก็สมควรชวนลูก ชวนหลานทำด้วย ประเทศชาติจะได้เจริญ มั่นคง ไม่ใช่เอาแต่ทำตัวเป็นกาฝากแผ่นดิน คอยที่จะดูดกินน้ำเลี้ยงให้เหือดแห้งไปวันๆ โดยไม่คิดจะทำอะไร ให้อะไร แก่ใครๆ และแผ่นดินนี้เลย
คนแบบนี้ท่านเรียกว่า คนหนักแผ่นดิน
เข้าใจไหม จบนะ
พุทธะอิสระ