เช้าวันเสาร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ออกเดินทางไปยังบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านเอื้อพร
พอรถเดินทางมาถึงเวลา ๘ โมงเช้า เปิดประตูรถลงมาสิ่งแรกที่ได้สัมผัส คือ กลิ่นฉุนของแอมโมเนีย พร้อมเห็นเด็กๆ กำลังสาละวนอยู่กับกิจกรรมประจำวัน บางก็นั่งเล่น วิ่งเล่นตามประสาเด็ก เห็นมีผู้ใหญ่นั่งอยู่บนม้าหินนั่ง กำลังทำอะไรอยู่มองไม่เห็น ผู้ใหญ่บางคนก็อุ้มลูกเดินไปมา
แต่ขณะที่เดินมาหลังรถ เพื่อจะยกของเห็นเด็กผู้ชายตามภาพ กำลังนั่งจดป้ายทะเบียนรถ อย่างเอาเป็นเอาตาย พวกฉันเข้าไปถาม พูดคุยด้วย แต่ก็ไม่ยอมพูดจา
ต่อมามีเด็กคนหนึ่งมาบอกว่า เขาพูดไม่ได้
ฉันเลยต้องยืนรอให้แกบันทึกป้ายทะเบียนรถ จนเสร็จ แกก็ส่งเสียงแบ๊ะๆ ฟังไม่เข้าใจ
ฉันเปิดประตูหลังรถเพื่อจะหยิบของ พอดีมีบรรดาเด็กๆ ที่ถูกผู้ดูแลบ้านเรียกใหมาช่วยกันยกของตามภาพ
ดูเด็กๆ ทุกคนกระวีกระวาดช่วยกันคนละไม้คนละมือ แต่ส่วนใหญ่มีแต่เด็กเล็ก
ฉันจึงถามผู้ดูแลไปว่า ที่นี่มีแต่เด็กเล็กหรือ
เขาแจ้งว่า เด็กโตก็มี แต่ยังอยู่ในห้องนอน เพราะวันนี้เป็นวันหยุด พวกเขาคงจะนอนตื่นสาย
ฉันจึงแจ้งไปว่า จะแจกให้เฉพาะเด็กที่มาเข้าแถวรับ ส่วนคนที่ไม่มาเข้าแถว ก็จักไม่แจก
ผู้คุมจึงถามว่า มีอะไรแจกบ้าง
ฉันจึงแจ้งไปว่า มีคุกกี้ สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม และปัจจัยคนละ ๕๐ บาท ฉันจึงถามกลับไปว่า มีเด็กกี่คน
ผู้คุมแจ้งว่า มีทั้งเด็กเล็ก เด็กโต และผู้ใหญ่ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และครอบครัวที่มีปัญหา ติดยา เด็กบ้านแตก และพ่อแม่ทิ้ง พ่อแม่ตาย รวม ๕๐ คน
คุยไปขนของไปเด็กๆ ก็กระวีกระวาดขนของจนจบ
ฉันนำมาจัดเรียงวางบนโต๊ะ เด็กๆ ก็มายืนออกันเป็นแถว เราจึงต้องบอกว่า น้องหนูไปเข้าแถวรอให้เป็นระเบียบจ้า
พวกเขาจึงไปยืนเข้าแถวรอ
จัดของแจกเป็นชุด แจกไปด้วยจัดไปด้วย สังเกตสีหน้าแววตากิริยาอาการของเด็กๆ ไปด้วย
สิ่งหนึ่งที่ได้สัมผัส ไม่เว้นแม้แต่ผู้ดูแล คือ อาการไอ
ดูแต่ละคนมีอาการไอแบบมีเสมหะเหนียวๆ อยู่ในลำคอ ริมฝีปากแห้ง หน้าแดง เหมือนคนเป็นไข้
ทำให้ฉันต้องกระชับผ้าปิดปากจมูก ให้กระชับมากขึ้น
เด็กบางคนไอไปยืนเข้าแถวไป ไม่มีการปิดปาก ปิดจมูกในเวลาไอ
ส่วนเด็กผู้หญิง สิ่งที่น่าสังเกตเห็นก็คือ ทุกคนจะเกาหัวอยู่เป็นระยะๆ ไม่รู้ว่ามีเหาอยู่บนหัวหรือเปล่า
แจกเด็กเล็กหมดต่อด้วยเด็กโต ดังภาพบางคนก็เป็นเด็กโข่ง อายุน่าจะ ๒๐ ปลายๆ ได้รับการแนะนำจากผู้คุมว่า เป็นเด็กมีปัญหา ครอบครัวมีปัญหา บางคนก็เคยติดยา เป็นโรคซึมเศร้า
ดูว่าสถานสงเคราะห์ที่นี่มีเด็กและผู้ใหญ่ เข้ามารับการสงเคราะห์ทุกเพศทุกวัย บางคนก็มีลูกอ่อน บางคนก็อุ้มน้องคนเล็ก มาอยู่ในสถานสงเคราะห์ด้วย
และผู้บริหารสถานสงเคราะห์ ก็มีนโยบายเปิดกว้าง รับคนเข้ามาหลากหลาย
เด็กเล็กก็ส่งไปเรียนโรงเรียนประถม มัธยม ในระแวกใกล้สถานสงเคราะห์
ส่วนเด็กโต ก็ทำงานไปเรียน กศน. ไป
งานที่ทำก็มีตั้งแต่ฝึกอาชีพก่อสร้าง สปา บาร์เทนเดอร์ คอฟฟี่เก้ และโฮมสเตย์บริกร
ฉันถามว่า แล้วรายได้ของเด็กๆ หละใครเก็บ
ผู้คุมบอกว่า เด็กจะเก็บเอง หรือ ถ้าเด็กเล็กมากก็จะมีผู้ปกครอง พี่เลี้ยงเก็บเอาไว้ให้โดยการทำบัญชีเงินฝากให้เด็กได้รับรู้
แจกไปคุยไป พอดีมีผู้ใหญ่ใจดีอีกคนหนึ่งมา ดูท่าเขาจะรู้จักฉันด้วย เห็นแสดงความยินดียกมือไหว้ แต่ไม่กล้าเข้ามาพูดคุยด้วย (คงกลัวฉันกัดเพราะตอนนั้นวิชาแน่นอก)
สรุปรวมความเด็กๆ ดูท่าจะไม่อดอยาก ส่วนความลำบากเห็นจะไม่เท่าไหร่
เพราะดูว่าสถานสงเคราะห์แห่งนี้จะเปิดที่พักแบบบ้านๆ ไม่มีระเบียบกติกาใดๆ มากนัก (หรืออาจจะมีก็ได้) เท่าที่สังเกตจากพฤติกรรมของเด็กและกลิ่นแอมโมเนีย ที่กระจายไปทั้งที่พัก
กิจกรรมมหาทานวันนี้ก็จบลงด้วยรูปภาพในมุมต่างๆ
แค่นี้นะจ๊ะ แบ่งบุญให้ลูกหลานทุกคนด้วย
พุทธะอิสระ