04.07.2553     14.45 น.  วัดอ้อน้อย 

ธรรมะต้นเดือน – หลวงปู่พุทธะอิสระ

เจริญธรรม เจริญสุข............

เมื่อกี้หลวงพี่กับหลวงพ่อ เป็นไง เสียงให้ร่วนไปหมด
ให้ขึ้นมาเล่าประสบการณ์ทางวิญญาณที่ได้รับจากครูบาอาจารย์ ไม่ได้ให้มาเรี่ยไร
ชั่งมันเถอะ ช่วยกันทำมาหากิน
เที่ยวหน้าเอาผู้หญิงบ้าง เอายายสาย ยายห่อ
ยายห่อเค้าอยู่กับหลวงปู่มานาน ตั้งแต่วัดคลองเตย ไปวัดตะลุง ลพบุรี ไปทุกที่
ปากก็บ่น ใครเข้าใกล้กูไม่ได้ แม้หมาตัวเมีย  ธรรมชาติของคนวัยเพชร
แกก็ถือว่า มีความจงรักภักดี
อายุตั้ง 82 ปีแล้วปีนมะม่วง มดแดงยังกลัวแก  ไม่เคยป่วย ไม่เคยเจ็บไข้
อานิสงส์การรักษาศีล ถือศีล 8 ชั่วชีวิต

สมัยก่อนไม่ค่อยมีพระอยู่เยอะ อยู่ลำบาก ไฟไม่มี  งูชุม หนูชุม งูเห่า งูเหลือม
พระกลัวลำบาก ไม่ค่อยอยู่  ต้นไม้ไม่มีซักต้น ดินเป็นดินดาน ต้องใช้แมคโครขุด
ส่วนไหนให้น้ำอยู่ ส่วนไหนไม่ให้น้ำอยู่
ทำยันตีหนึ่ง  ตีสอง คืนไหนพระจันทร์สว่าง ก็ทำยันสว่าง เพราะกลางวันร้อน
กลางวันก็หลาวไม้ไผ่
อีนวลจะไปบอกบุญ มาแรกๆ ไม่ค่อยใช้วิชา ใช้คนกับใช้ผี
เช้าขึ้นมาก็มากันเป็นคันรถ  จากเชียงใหม่ ระยอง ตราด
บอกว่าหลวงปู่จะทำวัด คนก็จะมาทำบุญ
คนถามว่าทำไมหลวงปู่ไม่ติดประกาศ 
บอกว่าอายเค้า ถ้าศรัทธา เค้าให้เอง
 บุญจากการขอ ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ให้ ผู้รับก็ไม่สบายใจ
นิสัยจะเป็นอย่างนี้ ก็ไม่มีการบอกบุญ จนล่ำลือว่า พระวัดนี้เอาตังค์มาจากที่ไหน
คนปากนิสัยเสียก็ว่า ขายยาบ้า ยาเสพติด จนตำรวจมาค้นตี 1 ตี 2
ตำรวจ 20 คน บอกลุก ๆ ๆ เราเพิ่งนั่งสมาธิเสร็จ ยังไม่ทันหลับ
บอก อยากหาก็หา อย่ายัดให้ก็แล้วกัน
เช้าขึ้นมา พูดกันในตลาด  สุดท้ายคนที่มาค้นถูกรถชนตาย
อีก 4 คนที่ค้นกุฏิตาหนิท เป็นอัมพาต
นายอำเภอ เป็นอำพฤกษ์ ลูกติดยา เมียถูกรถชนตาย
ทุกคนมีอันเป็นไปหมด เราก็ไม่ได้ไปสาปแช่งเค้า
เป็นประสบการณ์สร้างวัด ไม่ง่าย
ถามว่าเหนื่อยไม๊  เหนื่อย
แต่วัดสะอาด สงบ ไม่มีเสียงเจอะแจะ จอแจ
เป็นวัดที่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน สงบ สะอาด สว่าง  พยายามทำ
ก็เป็นเรื่องดี สมัยก่อนวัดแถวนี้ไม่นิยมปลูกต้นไม้ จะทำเป็นที่โล่ง
วัดแถวนี้ ก็เริ่มเปลี่ยน ทำตาม
ศาลาไม่มีกระไดสูง ลำบากผู้สูงอายุ
เป็นตัวอย่างให้วัดในจังหวัดได้
ให้เค้าฝึกกรรมฐาน สมัยก่อนพระจังหวัดนครปฐม ไม่มีการฝึกกรรมฐาน
หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อปาน ไม่สอน  ฝึกเอง ก็เป็นเกจิ
หลวงปู่ได้รับบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราชให้สอนกรรมฐาน
พระวัดต่างๆ ก็เริ่มตื่นตัว
สมัยก่อนไม่มีการเข้าค่าย
เพราะกำแพงแสนถือว่าเป็นชนบท ติดกับสุพรรณบุรี ไม่ค่อยใช้บริการพระ
เกิดธรรมศึกษามากที่สุดในภาค 14
30,000 กว่า หลวงปู่รับผิดชอบเขต
ออกตังค์เอง จ่ายข้าวกล่อง ตั้งแต่ 2,000 จนถึง 5,000 กล่อง  สอนธรรมศึกษา

นี่คือสิ่งที่ทำ เราเป็นต้นแบบให้กับพระสงฆ์ได้ เป็นเครื่องมือ
เมื่อก่อนพระในวัด อยู่กันแบบตัวใครตัวมัน
สำนักไหนอยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ลาสิกขา

วัดอ้อน้อยปีนี้เป็นปีที่ 21 แล้ว จะครบ 2 รอบ ก็อีก 2 ปี
ก็เป็น 2 รอบที่ภาคภูมิใจของผู้สร้าง ผู้สนับสนุน
เพราะเป็น 2 รอบที่ไม่ทำให้ศาสนาเสื่อมโทรม

ปิดทองลูกนิมิต ครั้งแรก ไม่มีวัดใดในแผ่นดินที่ปิดทองโดยไม่มีมหรสพ
หลวงปู่เทศน์อย่างเดียว  คนเค้าว่า บ้า เทศน์แล้วจะได้ตังค์เหรอ
แต่พวกคณะกรรมการ เค้าเชื่อ  ทั้งยังไม่มีแล้ว ก็ไม่ให้เก็บสตางค์ร้านค้าด้วย หน้าวัด 40 ไร่ ต่อน้ำ ต่อไฟให้
หน้าที่ของมึง คือขายของให้ถูก
ผลคือตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย  หลวงปู่ก็จะเดินบอก  วันนี้เอาสัก 5 ล้าน 
ตกเย็นตี 1 ปิดงาน ยอด 5 ล้าน
วันเสาร์ วันนี้ เอาสัก 12 ล้าน ปิดงานได้ 12 ล้าน
กูสั่งได้ไง
วันไหนดูท่าไม่ดี ฝนตก ก็ว่า วันนี้ 2 ล้าน
9 วันได้ 45 ล้าน หลวงปู่เสียไปกับคณะสงฆ์ 15 ล้าน
ได้กลับมาก็คือ เท่าที่ท่านพูดมาทั้งหมดคือลมตดของผม

เราคิดว่า นี่เป็นหน้าที่ เป็นสิ่งที่เราต้องทำ
ชาวบ้านมาก็ว่า อะไรโบสถ์ไม่มีข้างฝา ศาลาโล่ง
ลูกนิมิตที่ไหนมี 5 ลูก
ในพระวินัย บัญญัติไว้ 3 ลูกก็ได้
ลูกนิมิต แพง เสียตังเปล่า 5 ลูกก็พอ
เค้าว่ากัน  พอได้ 45 ล้าน พวกนี้เงียบหมดเลย จะเอาอย่างบ้าง
ทั้งหมดถ้าไม่ใช่ วิริยะบารมี ขันติบารมี สัจบารมี
มันทนสภาพบีบคั้นไม่ได้
เมื่อวานประชุมเรื่องยา หมอกรกช อยากผลักดันยาเข้าสู่โรงพยาบาล
หลวงปู่บอกว่า ยามันต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้อำนวยการโรงพยาบาล จากเภสัช
ข้อจำกัดของยาไทย คือ ไม่มี % ให้ส่งหมอไปเที่ยว
การเอายาไทยเข้าโรงพยาบาล อย่ามองว่าจะได้เป้าในการขาย
ยาหลวงปู่ไม่ได้อยู่ในตำราหลวง ไม่ได้ลอกใครทั้ง 81 พิกัด
ยาแต่ละตัวมีคุณค่ามาก
กระบวนการทำยา ถือว่าเป็นวิชาสุดท้ายไม๊
วิชาก็คือปัญญา
มันเป็นวิชาที่.................
บางครั้งกูก็ถามตัวเองว่าทำไปได้อย่างไร
ไม่ใช่ฟลุ๊ก แต่เป็นของเก่าที่สั่งสมมา  ไม่ได้หายไปไหน

บอกแล้ว หน้าที่ของจิต คือ รับ จำ คิด รู้
ไม่ว่าจะดี ก็รับ ไม่ว่าจะดี ก็จำ
ไม่ว่าจะชั่ว ก็ รับ  ไม่ว่าจะชั่วก็จำ
มันรู้ทุกเรื่องที่เข้ามา แล้วก็ออกไป
เราจะทำอย่างไร ที่จะ รับ จำ คิดรู้ ดี
ก็ต้องฝึกให้มีสติ อยู่เนื่องๆ
คนสมัยนี้ทำตัว รับ จำ คิด รู้ เลอะ
มันก็เลยแยกไม่ได้ เพราะว่าไม่มีสติ
แยกไม่ได้ว่าอะไรเป็นสาระ อะสาระ

เมื่อเช้าอ่านหนังสือพิมพ์ คุณหน้าเหลี่ยม จะกลับไทยภายในปีนี้
หลวงปู่ไม่อ่านอะไรแยะ  แค่ดูข้างหน้ากับข้างหลัง

บอกเค้าว่า ประเทศไทย ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดรัฐประหาร
แต่เค้าไม่เคยคิดทำร้ายบ้านเมือง เพราะไม่มีเงินมากพอ
พวกที่สงสารว่าโดนยึดทรัพย์  เค้าจะคิดไม๊ว่า กำลังโดนหลอก
เงินตอนนี้โผล่มาอีกเป็นแสนล้าน โผล่มาได้อย่างไร
คุณปรีดี ต้องหนี ไม่เรียกร้อง
ข้อแตกต่าง คือนายหน้าเหลี่ยมมีตังค์  เป็นฮีโร่ของคนจน
ไม่เคยมีอดีตนายกฯ คนไหน กลับมาทำร้ายประเทศได้
สรุปได้ว่า มันไม่มีความละอาย
คนมันไม่รู้ผิด รู้ถูก 
ถูกต้องมันหายไปจากสังคมเรา

ที่ต้องพูดแยะ เพราะพระสมัยก่อน ไม่ค่อยมีพระธรรมวินัย

ทิฐิพระ มานะครู  สองพวกนี้สอนยากที่สุด
แล้วพระนี่.... ท่านจะสอนอะไรผม
ใช่ แต่มันโง่ ฉลาด ต่างกัน

รวมๆ สรุป อยากบอกว่า ทำอย่างไรให้สังคมรู้จัก ถูก ผิด ดี ชั่ว  รู้จักทำนองคลองธรรม

เจตนาที่หลวงปู่ต้องการตั้งมูลนิธิ อโรคยา  ต้องการสร้างครอบครัวให้ใหญ่ขึ้น
ไม่ใช่เอาคนเก่ามาแปลงร่าง
สิ่งที่เค้าต้องทำ คือ ต้องทำงานด้วย
ให้ถือว่าเป็นนโยบายว่า เจตนา..............
เพราะต้องการให้กลไกมันขับเคลื่อนได้ด้วยตัวของมันเอง
ทำไมโลกใบนี้ถึงมีแต่คนปัญญาน้อย

กระบวนการค้าในโลกนี้มี 2 กระบวนการ
ของถูกราคาต่ำ
ของดีราคาแพง
คุณภาพต่ำ ราคาถูก

มึงทำได้ไม๊ ของดีราคาถูก
กูยอมขาดทุนเอง  เพื่อให้มึงมีกำไร
ถ้ามึงทำในสิ่งที่กูคิด
กูยอมกลืนน้ำลายขม  คำโบราณ รู้จักไม๊ น้ำลายขม  ปนเลือดไง

เลยบอกเค้าว่าสินค้าทุกตัวที่จะขายส่งนอก
เพราะเราเชื่อในสิ่งที่เราคิด

ค่าใช้จ่ายหอมจัง ตอนนี้เป็นล้าน  ค่าใช้จ่ายขึ้น
แต่ชั่งมันเถอะ ถ้าทำให้คน.....................
กูภูมิใจมาก ไปต่างประเทศ ยาสีฟันไม่ใส่กล่อง
เค้ารู้จักว่าอะไรคือเทียม อะไรคือแท้
กล่องราคา 5 บาท  เสียต้นไม้เท่าไหร่ เสียสีเท่าไหร่

เค้าซื้อชาจากจีนมาถวายหลวงปู่ .........ชากูเซียนกิน ของมันจับกังไม่กิน
ที่หลวงปู่พูด เรียกว่า หลักวิชาเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
หลวงปู่สอน..........
โชคดี คนไทยเริ่มตื่นตัว  ว่าโลกกำลังร้อน จะล่มสลาย

ไม่รู้จัก  ถูก ผิด ดี ชั่ว  เพียงถูกใจ  แต่ไม่สนใจว่าถูกต้อง
พ่อแม่ต้องสอนลูกหลานให้ถูกต้อง ไม่ใช่ถูกใจ

ถ้ากูมองอะไรเหมือนชาวบ้าน กูก็ไม่เป็นครูของมึง
กูไม่ใช่คนธรรมดา กูเป็นพระ  คิดแบบพระ ไม่เบียดเบียนตน และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
หวังแต่กำไร แต่ไม่ใส่ใจผู้บริโภค
ถ้าทำอย่างนั้น ก็จะเป็นผู้ฉกฉวยโอกาส  ไม่ได้ ทำไม่ได้
ไม่ควรแม้แต่จะคิด  เพราะนั่นเป็นการสร้างบาป
คิดที่จะเอาเปรียบเค้าด้วยความไม่ซื่อตรง  ไม่จริงใจ  เรียกว่ามโนทุจริต
แค่คิดก็บาปแล้ว
ยากที่จะเกิดบุญทางกาย  เพราะบุญนั้นจะไม่สำเร็จเลย

ทุกคนอยากได้พรสวรรค์  แต่หลวงปู่ไม่ต้องการพรสวรรค์
 เพราะกูมีพรที่แสวงจากตัวกู
รายได้ 3 ล้าน รายจ่าย 7 ล้านกว่า
สวรรค์ให้กูมาเกิด ให้กูมาทำ  แต่ทำไมไม่ให้ตังกูมาด้วย

มีหนี้ คือมีสมบัติ
หลวงปู่มีแต่จีวร กับ ตัว สมบัติอะไรไม่มีทั้งนั้น
ยังพูดบ่อยๆ โยมอย่าป่วยมากนะ ไม่มีตังค์รักษา  เป็นอะไรที่ ............

หลวงปู่ไม่มีพรสวรรค์ มีแต่แสวง
ไม่ได้หวังผล ขอเพียงภูมิใจที่ได้ทำ เพราะทุกเรื่องหลวงปู่จะไม่ทำแบบฉาบฉวย
ทุกเรื่องสำหรับหลวงปู่คือ วิญญาณ ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้
นี่แค่เพียงเศษเสี้ยวของคำว่าครู ภาคหนึ่งของความรู้ ที่สั่งสมมาในหลายๆ ชาติ
ยังมีที่ไม่ได้เป็นสารประโยชน์สำหรับคนในปัจจุบัน
เลือกรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์
เรื่องบางเรื่องไม่รู้เสียบ้าง จะนอนสบาย ตายเป็นสุข

เพราะฉะนั้นการที่ให้แต่ละคนเล่า ไม่ใช่ให้มายกความดีของครู แต่ให้บอกถึง.......................
ความวิเศษ ศักดิ์สิทธิ์เป็นเลิศ จะไม่เกิดขึ้นเลย สำหรับคนที่ ...................

เมื่อธรรมไม่ศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธเจ้าก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรมดา
พระภิกษุสงฆ์ต้องทำหน้าที่ตน สำเร็จประโยชน์
อรหอย อรหันต์ทั้งหลาย....................

ธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ คือ ธรรมอันสำเร็จประโยชน์
ชีวิตหลวงปู่ ไม่มีอะไร ทำไม่สำเร็จ ไม่มี
พรสวรรค์ อย่าบนบาน อย่าไปหา
แต่แสวงหา  แล้วนั่นแหละ พรจากสวรรค์
โชคจากสวรรค์ที่ได้พบ ครูบาอาจารย์ ผู้มีปัญญา
พบพระพุทธศาสนา พนผู้ชี้นำ

สุดท้าย ตกยาก ลำบากตาย

เรามีภพ คือ การเกิด
เรามีโชค คือ การได้พบครูบาอาจารย์
สุขคติภพ
ที่เหลือคือ ตัวเราต้องแสวงหา ไม่ใช่ดลบันดาล
เราทำพร 3 อย่างให้สมบูรณ์แล้ว เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แล้ว
ทีนี้ ชาวสวรรค์ก็อยากเข้าใกล้ อยากสั่งสนทนา อบรม เจรจา
เป็นดอกผลจากการทำความดี ว่าความดีของเราไม่สูญสลายไป

กูสะใจที่ดอกไม่ออก แต่โดนแดกไป

รวมๆ สรุปว่า  อย่ามัวแต่พึ่งพรสวรรค์
ชั่วชีวิตหลวงปู่ หิวก็ไม่ขอ........................
ไม่ใช่หยิ่ง
ชั่วชีวิต คิดว่า เราไม่มีพรสวรรค์ โทษตัวเองว่า ไม่ฉลาด ไม่สามารถ ไม่เก่งพอ
เพราะถ้ามัวแต่โทษคนอื่น แล้วเราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เป็นการทำลายตัวเอง

ครูคนนี้จะไม่โทษคนอื่น
จะไม่ให้จำเลยกับคนอื่น
ลูกหลานก็ต้องเอาอย่าง
เหล่านี้อยู่ในไวยากรณ์อรหันต์  ลูกหลานต้องเรียนรู้อุปนิสัยใจคอของครู
จะได้รู้ว่า เราอยู่ในขั้นไหน
ถ้ามองคนอื่นเป็นใหญ่  นั่นแหละศิษย์กู
คนอื่นต้องสุขเสมอ  สุดท้ายเราก็เป็นสุข เราก็ปลอดภัย มั่งมี
เพราะเราเป็นสัตว์สังคม  ถ้าปฏิเสธสังคม เราก็ไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉาน เพราะกระดูกชิ้นเดียว
จะเรียกว่า มนุษย์ใจสูงได้อย่างไร
เรียกว่าคุณสมบัติของมนุษย์ ต้องรู้เรื่องนี้

รวมๆ สรุป ทำอย่างไร เห็นถูก เป็นถูก  เห็นผิด เป็นผิด
เห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

ต้องสร้างสัมมาทิฐิให้มาก
เห็นว่าทุกข์เพราะหิว จึงต้องกิน
เห็นว่าทุกข์เพราะร้อน จึงต้องอาบ
จะทรงไว้ซึ่งคุณแห่งปัญญา

พระอาทิตย์สว่างกลางวัน
พระจันทร์สว่างกลางคืน
แสงแห่งปัญญาสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน

ทำอย่างไรให้มีปัญญา
ต้องอบรม สั่งสอน สั่งสม เรียนรู้

ปุจฉา  ตอนนี้มีอาชีพหมอฟัน มีเวลาว่าง เล่นหุ้น ผิดศีลธรรมไม๊คะ
วิสัชนา  ไม่ผิดศีลธรรม แต่ต้องลุ้น ต้องเชียร์  ไม่ใช่การพนัน แต่เหมือนการพนัน
เป็นการมัวเมา และติด ไม่เห็นสิ่งแวดล้อมรอบกาย จะเห็นแต่ตัวเลข สังเกตดูจะเห็นว่า จะมีจิตใจหยาบ ขาดสุนทรียภาพ ในทุกเรื่อง อารมณ์ประณีต จิตใจที่ดีงาม

ปุจฉา  อายุ 42 เป็นนิ่วในถุงน้ำดี น้ำหนักลดจาก 80 ก.ก. เหลือ 55 ก.ก.
วิสัชนา   นิ่วในถุงน้ำดีไม่ใช่เรื่องเลวร้าย  น้ำหนักลด น่าจะมาจากเครียด หรือเหตุปัจจัยอื่น 
ยาละลายนิ่วกินกับน้ำมะระขี้นก แต่อย่ากินเม็ด เพราะมีสารพิษ ทุกวัน เช้า เย็น 1 ถ้วยชา
รสขมจะบำรุงน้ำดี กับตับ

ปุจฉา  กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
วิสัชนา  ดื่มน้ำสะอาดอย่างเดียวก็บรรเทาได้ในระดับหนึ่ง 
ต้องดูแลเครื่องดื่ม กับอาหาร  น้ำอัดลมอย่ากิน ซุปต่างๆ
ยาปรับธาตุ  2 เดือนก่อนมีคนไข้ไขมันเกาะตับ หลวงปู่ให้ยาละลายลิ่มเลือด กับละลายไขมัน
พร้อมน้ำยาปรับธาตุ  ไปตรวจอีกที หมอถามว่า ไขมันมันหายไปไหน
หลวงปู่ฉัน เช้า เย็น ทำให้เลือดสะอาดขึ้น ขับถ่ายได้ดี รักษาสมดุล

ปุจฉา  ซื้อน้ำปลาหลวงปู่หลายขวด เก็บไว้  นอนก้น เรียนถามว่าเสียไม๊คะ
วิสัชนา  ไม่เสีย  เป็นน้ำปลาหัวแรก  มีไขมันอยู่ในตัว  น้ำปลามีเสียที่ไหนวะ 
น้ำปลาใส ไม่ยาก น้ำต้มกระดูก ใส่เกลือ
ตัวตกตะกอน คือไขมันของเนื้อปลา
 หลวงปู่หมักด้วยสมุนไพร  ข่า ตะไคร้ ดับกลิ่นคาว

17.30 น.  หลังปฏิบัติธรรม เดินป๊อก

ที่ได้คือแค่กากเดินเท่านั้น ยังไม่เข้าถึงความรับรู้ขั้นละเอียด คือ ช้า หรือเร็ว ก็เดินได้ในระดับเดียวกัน  ช้าก็ได้ เร็วก็ก้าวถูก
วิถีของพระพุทธเจ้า………….
วิถีของพระโพธิสัตว์ ยิ่งกว้างมโหฬาร

หลวงปู่กำลังฝึกให้พวกมึง ตรงไปตรงมา  ต้องทำให้ตรงไปตรงมา
มารยามีไว้ใช้สำหรับซาตาน ไม่ใช่ใช้กับกัลยาณธรรม
ขั้นที่ 3 จะแยกกาย แยกจิตได้ว่า มันแตกต่างกันมหาศาลเพียงใด
คนที่ฝึกวิชาอริยะ จะเข้าสู่อริยะชน จะพร้อมทุกเมื่อ
การก้าวต้องสม่ำเสมอ
เดี๋ยวช้าก็ให้เหมือนเร็ว
เร็วก็ให้เหมือนช้า

สติไม่แก่กล้า สัมปชัญญะไม่ตั้งมั่น
ทุกครั้งที่..................
ปิดหูปิดตาคือสำรวม
เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้า  ไม่มีแจก
หลวงพ่อผาสุกปิดตา
กูอยากสอน แต่ลูกศิษย์กู  ควาย

ไม่อย่างนั้น อายุขัยกูก็จะสั้นลงเรื่อยๆ
ยิ่งเผยแพร่ไม่ได้ ยิ่งสั้นลงใหญ่