9.12.53  15:00 น. ทองผาภูมิ
ยิ่งเดินมากเท่าไหร่ จิตกับกายก็ยิ่งควบแน่นมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเดินมาก ยิ่งสงบ นิ่งมาก จิตมีอานุภาพ ยิ่งรู้การโคจรของปราณได้มาก
ที่ให้เดินขั้นที่ 1 ต้องการให้รู้ว่ากายในกาย การเต้นของหัวใจ การหมุนเวียนลม การหมุวียนเลือด ต้องรู้ให้ชัด แต่ขั้นที่ 1 จะไม่ชัด แต่ต้องตั้งมั่น ถ้าแค่ได้จังหวะกับก้าว ยังไม่ถือว่า เป็นผู้เข้าถึงขั้นที่ 1

9.12.53  18:30 น. ทองผาภูมิ
หลังทำวัตรเย็น
เจริญธรรม เจริญสุขท่านผู้แสวงหา……..
วันแรกที่ปฏิบัติ มี 3 เรื่องต้องบริหาร คือ บริหารเวลา กาย อารมณ์
บริหารเวลา  ของหล่นหายยังเก็บได้ แต่เวลาหล่นหายเก็บไม่ได้ เพราะว่าหลวงปู่รู้จักบริหารเวลา ทำให้วัดอ้อน้อย 20 ปี จาก 9 ไร่ เป็น 100 ไร่ 200 ไร่ เมื่อครู่มาไม่ทัน เพราะไปพัก แล้วไปดูเค้าขุดมัน ปลูกขิง  เสียดายที่เลยให้ปลูกสับปะรด ขิง ไพร ข่า แถมยังได้ข้าว เพิ่งเอาไปสี เพราะฉะนั้นที่แปลงเดียวปลูกได้ตั้งแต่สาก.........
มาไม่ทัน แต่ฟังเสียงสวดมนต์แล้วไม่เลื่อนหู ทำไงให้สวดสาธยายมนต์แล้วมีความสุข มีพลัง มีอารมณ์ตั้งมั่น เหมือนได้เฝ้าพระพุทธเจ้า
หลวงปู่อยากแบ่งปันประสบการณ์เหล่านี้ให้ลูกหลาน อย่าสวดแต่ปลายลิ้น ก็ไม่เห็นมีใครเป็นสุข อิ่มอกอิ่มใจ เหมือนได้เฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าอีกครั้ง พวกมึงเห็นใคร  เห็นกู  เห็นหัวขาว หัวดำที่นั่งข้างหน้า
สวดอย่างไรเทวดาจึงจะสะดุ้ง ต้องสวดด้วยใจ
สวดให้ยักษ์ ต้องสวดด้วยความห้าวหาญ
ทำยังไงจะสอนให้คนซื่อตรง ออกจากใจ ความซื่อตรงเป็นเอกลักษณ์ ลักษณะของรัตนบุรุษ บุรุษเหมือนดั่งแก้ว นายแก้ว นางแก้ว
จะทำอย่างไร ต้องฝึกปรือตัวเอง
เวลาสาธยายมนต์ต้องจริงจัง จริงใจ ถ้าสวดมนต์แล้วยังไม่สำเร็จประโยชน์ อย่างหวังว่าจะทำอย่างอื่นสำเร็จ
เพราะว่าหลวงปู่ทำด้วยใจ ไม่ได้ทำแต่ซาก ทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ จับจ้อง จริงจัง จบๆให้ได้สำเร็จประโยชน์ เพราะเราค้นหาวิธีประเสริฐมาทำ
มนุษย์ดีไม่ใช่ดีที่ยี่ห้อ มนุษย์จะเป็นบัณฑิตต้องศึกษา ฝึกฝน อบรมสั่งสม เรียนรู้ ฝึกตัวเองให้
ได้ทุกเวลา คนอื่นฝึกเราได้บางเวลา
ถ้าหลวงปู่มีครู ป่านนี้ไปไหนแล้ว
สรุปพวกมึงมีวาสนา กูไม่ได้ชมเลย กูว่าแดก อะไรๆก็มีคนจับมือสอน มีญาติเป็นอรหันต์สอน
สอนแล้วก็เหมือนเดิม อยู่กับที่
เพราะฉะนั้น ต้องทำอย่างไรให้พัฒนาตัวเอง ปีนี้ได้แค่นี้ ปีหน้าต้องมาก ดีกว่าเดิม ทำจนกว่าจะบอกว่า เออ เราพอแล้ว ไม่ต้องทำแล้ว จึงจะเรียกว่า มนุษย์ผู้สูงส่ง ไม่ใช่เมื่อไหร่ก็หาว
เดี๋ยวให้ไปพัก เดี๋ยวมาฝึกบริหารอารมณ์ ต้องตัดความกังวลทั้งปวง ให้เหลือไว้แค่กายกับใจให้ดีที่สุด
บริหารกาย เป็นหน้าที่ที่ต้องระลึกเสมอว่า ผู้มีสติในกาย กายนี้ไม่ลำบาก  ผู้มีสติในวาจา วาจานี้ไม่ลำบาก  ให้รู้ว่าทุกเรื่องของใจ ใจนี้ก็ไม่ลำบาก ให้รู้ว่าทุกเรื่องของที่นี่ เป็นเรื่องของการศึกษา พัฒนาตัวเอง
ชั่วชีวิตหลวงปู่เพราะคิดอย่างนี้ จึงปลุกครูผู้อารีให้ตื่น
ทุกคนไม่ได้เกิดชาตินี้ชาติแรก  ครูผู้ใจอารีเก็บสั่งสมอบรมไว้ แต่เราไม่ได้เอาออกมาใช้ ชาติภพที่เราเกิดมา สามารถทำให้พ้นทุกข์ แต่เราไม่ค้นหา วิธีค้นหา คือ ต้องมีสติภายในกาย เหมือนที่สอน
จังหวะกับการก้าว เป็นเพียงกระพี้
หูฟังเสียง การก้าวเดิน ก็เป็นแค่กระพี้

9.12.53  20:10 น. ทองผาภูมิ
ถ้าทำได้ จะไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่เปลี้ย ไม่เพลีย
ทำไม่ถูก จิตฟุ้งซ่าน ยิ่งฟุ้งซ่านก็จะยิ่งเสียพลัง
หลักการหายใจในวิชาขีดจิต หายใจเข้า กว้าง ลึก เต็ม รู้  หายใจออก  ยาว เบา หมด รู้
วิชาที่หลวงปู่สอน ไม่ใช่สอนส่งเดช วิชาหนึ่งก็สามารถไปใช้กับวิชาหนึ่งได้
สอนให้ยืนคุมลมได้ นั่งก็ทำได้ไม่ยาก   จิตคุมลม
เลือกเฟ้นลมที่เหมาะสมสำหรับตน  ข้อแรกในโพชฌงค์ คือ วิจายะสัมโพชฌงค์ วิจัยวิจารณ์ธรรมและเลือกเฟ้นธรรมที่เหมาะสมสำหรับตน
ถ้าลมไม่เหมาะสม พระพุทธเจ้าคงไม่สอนไว้ตั้ง 13 ขั้นตอน