หากมนุษย์ในโลกนี้ไม่มีศรัทธา มนุษย์โลกจะมีสภาพอย่างไร
 
 
ตอบ
ก็ลองย้อนกลับไปในยุคหินที่มนุษย์ไม่มีศาสนา แต่ก็ต้องแสวงหาที่พึ่ง เมื่อมนุษย์ยุคนั้นบังเกิดความกลัว
ก็อย่างที่ปรากฏในภาพเขียนสีในยุคหินนี้แหละ ที่ยกมาให้ท่านดู
กาลต่อมามนุษย์บางจำพวก บางกลุ่มเริ่มมีพัฒนาการทางสติปัญญา และการกระทำ จนชนทั้งหลายในยุคนั้นๆ เกิดความเสื่อมใส ศรัทธา ยกให้เป็นเจ้าหมู่ เจ้าคณะ และราชา ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่พึ่งทางกาย ให้แก่ชนทั้งหลาย
ในขณะเดียวกัน ในหมู่ชนเหล่านี้ ก็มีคนที่มีสติปัญญามากที่สุด มีพฤติกรรมที่แจ่มชัดที่สุด มีคุณธรรมอันยิ่ง ที่ผู้คนในยุคนั้นไม่มี และเป็นผู้ที่สามารถพึ่งพาทางจิตใจได้จนมีผู้ศรัทธา
คนผู้นั้นแหละคือผู้ประกาศศาสนาเป็นศาสดาผู้นำทางจิตวิญญาณ
ส่วนที่ถามว่า หากมนุษย์โลกไม่มีศาสนา มนุษย์โลกจะมีสภาพเช่นไร
ก็เป็นไปตามยถากรรมที่ตนกระทำ ถึงแม้ว่ามนุษย์จะปฏิเสธศาสนา แต่มนุษย์และสัตว์ก็มิอาจปฏิเสธกฎแห่งธรรมชาติไปได้
นั้นก็คือ มนุษย์และสัตว์ต้องเป็นไปตามผลแห่งการกระทำของตน มนุษย์และสัตว์ล้วนต้องเป็นไปตามหลักไตรลักษณ์ คือ
มีความไม่เที่ยง
เป็นทุกข์
และไม่มีอยู่จริง ทุกสรรพสิ่งและสรรพสัตว์ล้วนเกิดมาจากเหตุปัจจัยประชุมร่วมกัน
เมื่อถึงคราวเหตุปัจจัยแตกสลาย ด้วยอำนาจแห่งความเสื่อม คร่ำคร่าและหมดอายุ สรรพสิ่งและสรรพสัตว์เหล่านั้นไม่ว่าจะมีศาสนาหรือไม่ ก็ต้องมีอันแตกสลายตายลง
แต่ที่มันแย่ก็ตรงที่ขณะที่ยังไม่ถึงคราวแตกสลาย มนุษย์และสัตว์เหล่านั้น ย่อมมีความกลัว แก่ลง เจ็บ กลัวจน กลัวจาก กลัวทุกข์ยาก
มนุษย์และสัตว์เหล่านั้นจะใช้อะไรเป็นที่พึ่งเหลา
คิดซิคิด
หรือไม่ต้องมีที่พึ่ง ยอมจมปลักอยู่ในห่วงแห่งความทุกข์ได้ไม่ปริปากบ่นใช่ไหม
 
พุทธะอิสระ