คำกล่าว

เดชะพุทธา นุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุ เม
          ด้วยเดชะอานุภาพ แห่งพระพุทธเจ้า ขอความสวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้า (กราบ)

เดชะธัมมา นุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุ เม
          ด้วยเดชะอานุภาพ แห่งพระธรรม ขอความสวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้า (กราบ)

เดชะสังฆา นุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุ เม
          ด้วยเดชะอานุภาพ แห่งพระสงฆ์ ขอความสวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้า (กราบ)

สาธุวันทา คุณบิดามารดา (กราบ)

สาธุวันทา คุณครูบาอาจารย์ (กราบ)

(ก่อนกล่าวคำขอบวชเนกขัมมะ ผู้ขอควรกราบ ๓ ครั้งก่อน)
       กราบลงแล้วกล่าวในใจว่า "พุทธัง วันทามิ"
       กราบลงแล้วกล่าวในใจว่า "ธัมมัง วันทามิ"
       กราบลงแล้วกล่าวในใจว่า "สังฆัง วันทามิ"

       นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต             ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น
       อะระหะโต                              ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส
       สัมมาสัมพุมธัสสะ                    ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
                                      (กล่าว ๓ จบ)

      เอเตมะยัง ภันเต สุจิระปะรินิพพุตตัมปิ ตังภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัญจะ ภิกขุสังคัญจะ ปัพพัชชัง โนภันเต สังโฆ ธาเรนตุ อัชชะตัคเค ปาณุปาตัง สะระณัง คะตา

       ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอถึงสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้เสด็จดับขันธปรินิพพานนานแล้ว กับทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก ขอพระสงฆ์จงจำข้าพเจ้าไว้ว่า เป็นผู้ขอบวชในพระธรรมวินัย ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

          โอกาสนี้           โชคดีหนา            พระมาโปรด
จงเลิกโกรธ                เลิกหงุดหงิด         เลิกริษยา
เลิกมักง่าย                  มลายสิ้น              เลิกนินทา
เลิกพูดจา                   ลามลวน              ไม่ชวนฟัง
          เลิกซุ่มซ่าม      หยามเหยียด          เลิกเกียจคร้าน
เลิกเป็นพาล               อวดโต                 คุยโอหัง
เลิกฟุ่มเฟือย               เย่อหยิ่ง                เลิกชิงชัง
เลิกเบียดบัง               ราษฎร์หลวง          เลิกลวงกัน
          เลิกคิดชั่ว        มัวหมอง                คิดปองร้าย
เลิกอบาย-                 มุข                        เป็นสุขสันต์
ฝิ่นกัญชา                  ยาเหล้า                 อย่าเมากัน
การพนัน                   เลิกสิ้น                   อย่ายินดี
          ทั้งสามภพ                   ยกตั้ง                        ขึ้นชั่งเปรียบ
หนักไม่เทียบ                          พระคุณแม่                 สุดแลหา
ถึงอบอุ่น                                สุริยัน                        และจันทรา
อกมารดา                               อิงอุ่น                       กว่าสูรย์จันทร์
          ถึงธารทิพย์                  หลั่งไหล                   มาให้ดื่ม
ไม่ปลาบปลื้ม                         ซาบซ่าน                   เท่าธารถัน
ถึงนางฟ้า                              มาอุ้ม                        ช่วยคุ้มกัน
ไม่เทียมทัน                           ตาแม่                        ที่แลมอง
           พระคุณแม่                 เลิศฟ้า                       มหาสมุทร
พระคุณแม่                            สูงสุด                        มหาศาล
พระคุณแม่                            เลิศหล้า                    สุธาธาร
ใครจะปาน                            แม่ฉัน                       นั้นไม่มี
          เปรียบพ่อแม่               เช่นโคมทอง              ของชีวิต
ช่วยชี้ทิศ                             ช่วยนำทาง                 ช่วยสร้างสรรค์
ให้ความรัก                           ให้ความรู้                    ชูชีวัน
ลูกจงหมั่น                            กตัญญู                      รู้แทนคุณ
          แม้สังขาร                   ลานแหลก                 แม่แลกได้
หวังจะให้                              ลูกตน                      พ้นภัยผอง
แม้สูญสิ้น                             ดินฟ้า                       ธารานอง
พระคุณของ                          แม่ข้านี้                     ย่อมมีเอย
          มีไม้เท้า                     ใช้ยัน                        ยุดกันร่าง
คลำหาทาง                          แกว่งกวัด                  สัตว์ร้ายหนี
ป้องกันตัว                            ติดตน                       ผลทวี
ดีกว่ามี                                 ลูกรั้น                        อกตัญญู
          ถึงลูกจน                    ทนได้                       ไม่ทุกข์หนัก
เท่าลูกรัก                             ประพฤติตน               เป็นคนชั่ว
ลูกกี่คน                                ทนเลี้ยงได้               ไม่หมองมัว
ไม่โศกเศร้า                          เท่าลูกตัว                  ชั่วระยำ
      จะเริ่มร่ำคำกลอนไว้สอนบุตร             สงสารสุดนึกไปแล้วใจหาย
จะแลเหลียวเปลี่ยวอุราเอกากาย              ไม่มีหมายหมดซึ่งที่พึ่งพา
จึงเรียกบุตรสุดที่รักมาพรักพร้อม              ให้นั่งล้อมเรียงรายทั้งซ้ายขวา
แล้วมีรสพจมานสารสุภา-                       ษิตกถากล่าวร่ำเป็นคำกลอน
      ทุกวันนี้มีแม่ผู้เดียวแล้ว                    โอ้ลูกแก้วเจ้าจงจำซึ่งคำสอน
อุตส่าห์เล่าเรียนวิชาให้ถาวร                    จะนั่งนอนหมั่นนึกเฝ้าตรึกตรา
อันวิชาพาตนให้ผ่องแผ้ว                        ดังดวงแก้วควรสงวนต้องควรหา
รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา                                    จะช่วยพาชูตนให้พ้นภัย
       อย่าเพลินเล่นเต้นร้องคะนองนัก       ถนอมรักพี่น้องให้ผ่องใส
การสิ่งใดควรงด จงอดใจ                       อย่าทำให้ร้อนรานถึงมารดร
ผู้เป็นพี่นั้นต้องมีธรรมทั้งสอง                  จงตรึกตรองจำให้แน่แม่จะสอน
ถือขันติเมตตาสถาพร                            เป็นทางจรให้สมัครสามัคคี
       แม้เป็นพี่มีจิตคิดฉุนเฉียว                ไม่หน่วงเหนี่ยวไกล่เกลี่ยเสียวิถี
จะเกิดความลามลุกขึ้นทุกที                   จงปรานีออมอดสะกดใจ
เมื่อน้องผิดคิดพลั้งช่วยสั่งสอน              อย่าค่อนขอดด่าว่าอัชฌาสัย
วาจานั้นจะทำให้ต่ำไป                          ดังพวกไพร่อันธพาลสันดานพล
       เป็นผู้ใหญ่ไว้คมให้สมชั้น               อย่าถึงดันเอาแต่ได้จะไร้ผล
อารีรอบพวกพ้องน้องของตน                 เป็นมงคลสุขสวัสดิ์ขจัดภัย
ผู้เป็นน้องนั้นก็ต้องเคารพพี่                   ตามบาลีแบบโบราณท่านขานไข
อย่าถือผิดมาเป็นชอบประกอบใจ            จงอยู่ในวาทีของพี่ยา
        ประพฤติตนให้เป็นคนที่ว่าง่าย        ไม่มุ่งหมายเคียดคิดริษยา
จะพูดจาสิ่งใดไว้อัชฌา                         ให้รู้ว่านั่นเป็นพี่นี่เป็นน้อง
อย่าทำดื้อถือทิฏฐิดำริผิด                       ไม่รู้คิดหนักเบาจะเศร้าหมอง
มีการกิจคิดให้งามตามทำนอง                จงปรองดองหารืออย่าถือด
         เมื่อพี่ว่าเจ้าอย่าท้าคารมตอบ        ชอบมิชอบนิ่งไว้อย่าใส่สี
แม้เลียนล้อต่อปากให้มากมี                    จะราคีเคืองคำจงยำเกรง