คราวที่แล้วได้เขียนอธิบายให้ท่านทั้งหลายได้เห็น ได้เรียน ได้รู้ ได้เข้าใจว่า สุข ทุกข์ บุญ บาป กุศล อกุศล ดี ชั่ว ล้วนแต่เกิดมาจากจิตนี้เท่านั้น

วันนี้จึงขอยกสาเหตุที่ทำให้จิตรับ จิตจำ จิตรู้ จิตคิด อย่างไรถึงจะ
มีแต่สุข ไม่มีทุกข์
มีแต่บุญ ไม่มีบาป
มีแต่กุศล ไม่มีอกุศล
มีแต่ดี ไม่มีชั่ว
มีแต่สุคติภพ ไม่มีทุคติภพ

มาให้ท่านทั้งหลายเรียนรู้ศึกษากันต่อไป

วันนี้เรามาทำความเข้าใจ ใส่ใจอย่างแยบคาย ในเจตสิกเครื่องปรุงจิตจนเป็นอารมณ์ที่ปรากฏในปัจจุบัน ด้วยการให้ความใส่ใจ จดจ่อ จับจ้อง จริงจัง ให้แจ่มชัดต่อเจตสิกที่ปรากฏแก่จิต

คราใดที่อารมณ์ที่ดีงามเกิดขึ้น เป็นกุศลจิต ถือว่าเป็นการสร้างสุคติภพในขณะจิตนั้น เรียกว่า โยนิโสมนสิการ การพิจารณาด้วยอุบายอันแยบคาย

คราใดที่ไม่มีความใส่ใจอย่างจริงจัง จับจ้อง ต่ออารมณ์ที่ปรากฏแก่จิตแล้ว จะทำให้เกิดอารมณ์ที่ชั่ว จิตที่ผิดบาปอกุศล จนสร้างทุคติภพในขณะจิตนั้น เรียกว่าอโยนิโสมนสิการ ไม่พิจารณาด้วยอุบายอันแยบคาย

สาเหตุที่ทำให้เกิด โยนิโสมนสิการ จำเป็นต้องมีต้นทุนเก่าเป็นเครื่องส่งเสริมคือ

- เพราะเคยทำบุญมาดีแล้วแต่ปางก่อน

- เคยอยู่ในสถานที่ๆ มีสัปบุรุษ ผู้รู้ ผู้มีปัญญา มาแต่กาลก่อน

- เคยคบหาสมาคมกับสัปบุรุษ ผู้รู้ ผู้มีปัญญา มาแต่กาลก่อน

- เคยสดับฟังธรรมของสัปบุรุษ ที่คบหามาแต่กาลก่อน

เหล่านี้เป็นเหตุให้ตั้งตนตั้งจิตไว้ในอารมณ์ที่ชอบตามทำนองคลองธรรม

สรุปรวมความว่า การจักบังเกิดสัมมาทิฐิ สติปัญญา ความคิดโดยแยบคาย จนบังเกิดสุคติภพได้ในทุกขณะจิต จะต้องสั่งสมอบรมบุญกุศลสติปัญญามาแล้วแต่ปางก่อนด้วย

หากไม่มีการสั่งสมสัมมาทิฐิ สติปัญญา บุญกุศล มาแต่ปางก่อนๆ ก็ยากนักที่จักบังเกิดเจตสิกในส่วนที่เป็นโยนิโสมนสิการ ที่เป็นเหตุให้บังเกิดสุคติจิตสุคติภพได้ในขณะจิตหนึ่งๆ

พุทธะอิสระ