ครั้งนั้น มาตุโปสกพราหมณ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ สนทนา
ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว นั่ง ณ
ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง มาตุโปสกพราหมณ์นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ท่านพระโคดมผู้เจริญ ข้าพเจ้าแสวงหาภิกษาโดยชอบ
แล้วเลี้ยงมารดาและบิดา ข้าพเจ้าทำเช่นนี้ ชื่อว่าทำกิจที่ควรทำหรือไม่ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ชอบยิ่ง พราหมณ์ ท่านทำดังนี้ ชื่อว่าได้ทำ
กิจที่ควรทำแล้ว ด้วยว่า ผู้ใดแสวงหาภิกษาโดยชอบแล้ว เลี้ยงมารดาและบิดา
ผู้นั้นย่อมได้บุญเป็นอันมาก ฯ

[๗๑๔] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้
จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
บุคคลใดเลี้ยงมารดาและบิดาโดยชอบ เพราะการบำรุงมารดา
และบิดานั่นแล บัณฑิตย่อมสรรเสริญบุคคลนั้นในโลกนี้
ทีเดียว บุคคลนั้นละไปจากโลกนี้แล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์ ฯ
[๗๑๕] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสเช่นนี้แล้ว มาตุโปสกพราหมณ์ได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่าน
พระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนก
ปริยายดุจหงายภาชนะที่คว่ำ เปิดของที่ปิดไว้ บอกทางแก่คนหลงทาง ส่อง-
*ประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า คนมีจักษุจะมองเห็นรูปได้ ข้าแต่ท่านพระโคดม
ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคกับพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอพระ
องค์จงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่
วันนี้เป็นต้นไป ฯ
------------------------------------
หากอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ วันหน้าจะนำพระชาดก เรื่องสุวรรณสาม มาให้ท่านทั้งหลายได้อ่านเพื่อเพิ่มเติมความรู้ความเข้าใจ ในการทำหน้าที่ของลูกอันพึงต้องตอบแทนพระคุณของพ่อแม่อย่างไรบ้าง
แล้วพวกที่เข้ามาด่าน่ะ ไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างที่พุทธะอิสระทำบ้างหรือ
หากยังไม่ทำ ก็ลองไปทำ จะได้ชื่อว่าเป็นลูกกตัญญูกับเขาบ้างนะจ๊ะ
พุทธะอิสระ