“หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว วะยะธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ”

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันว่าสังขารทั้งหลาย ย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำประโยชน์ของตน และประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิดฯ

อธิบายคำ

คำว่า ภิกษุทั้งหลาย หมายรวมถึงคนสี่กลุ่ม อันได้แก่
พระภิกษุ พระภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา

คำว่า สังขารทั้งหลาย หมายรวมถึง สังขาร 2 ชนิด อันได้แก่

สังขารที่มีวิญญาณครอง ได้แก่ คนและสรรพสัตว์ ทั้งปวง

สังขารที่ไม่มีวิญญาณครอง ได้แก่ สิ่งไม่มีชีวิตทั้งปวง

คำว่ามีความเสื่อม เป็นธรรมดา หมายความว่า

สังขารทั้งที่มีวิญญาณครอง และ

สังขารที่ไม่มีวิญญาณครอง

ล้วนมีธรรมดา ที่จักต้อง ทรุดโทรม เก่าแก่ คร่ำคร่า ผุกร่อน ล้มตาย แตกสลาย

คำว่าท่านทั้งหลาย หมายรวมถึง ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา

คำว่า จงยัง หมายความว่า จงทำ

คำว่า ประโยชน์ตน หมายรวมถึง ประโยชน์ ๓ อย่าง อันได้แก่

ประโยชน์ในภพนี้

ประโยชน์ในภพหน้า

ประโยชน์ในที่สุด

คำว่าประโยชน์ท่านหรือประโยชน์ของผู้อื่น หมายถึง ประโยชน์ ๓ อย่าง เช่นเดียวกัน อันได้แก่

ประโยชน์ในภพนี้

ประโยชน์ในภพหน้า

ประโยชน์ในที่สุด

คำว่า ให้ถึงพร้อม หมายรวมถึง สุจริตธรรม ความเพียร ความอดทน และสติปัญญา

รวมความว่า ผู้ที่จักทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อม ต้องประกอบไปด้วย

สุจริตธรรม ความเพียร ความอดทน และต้องกระทำการทุกอย่างด้วยสติปัญญา

คำว่า ด้วยความไม่ประมาท หมายความว่า

ผู้ที่แม้จักทำประโยชน์ตนหรือ ให้ประโยชน์ท่าน จักต้องมีสติปัญญา พิจารณา ให้เห็นถึงสภาพธรรมของสังขารทั้งปวง ตามความเป็นจริง

ที่มีปกติธรรมดา คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วต้องดับ เป็นธรรมดา

ประโยชน์ในที่สุดก็จักพึ่งบังเกิด เมื่อมีสติปัญญา พิจารณา ให้รู้เห็นตามความเป็นจริง เช่นนี้ก็จักสามารถถอดถอน อุปาทาน ความยึดถือ ในอัตตาตัวกู ของกู และอุปาทานในชาติภพได้ในที่สุด

หวังว่า ท่านผู้มุ่งหวัง ประโยชน์ทั้งหลาย คงจักได้รับความเข้าใจในการทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน

ตามพุทธประสงค์ขององค์พระบรมศาสดา กันทั่วหน้า เจริญประโยชน์

พุทธะอิสระ