ห่างหายไปเสียหลายเพลา เพราะมัวแต่ไปทำงานโยธาอยู่กลางแดด ช่วยเหลืองานวัด งานพระศาสนาแม้ร่างกายและสังขารมันไม่เอื้ออำนวย แต่จักทำอย่างไรได้ก็ในเมื่อเรา ยังต้องอาศัยก้อนข้าว หยดน้ำของชาวบ้านเขากิน ซึ่งชาวบ้านเขาก็ศรัทธาพระสงฆ์ในอาวาสวัดอ้อน้อย

ฉะนั้นอะไรที่เราพอจักช่วยแบ่งเบางานการของพระ ของวัดลงไปได้ เราคงจะนิ่งดูดายไม่ใส่ใจไม่ช่วยเหลือ มันจะกลายเป็นว่าเราแล้งน้ำใจ

เช่นนี้เราจึงต้องมาตะลอนๆ คุมคนงานทำนู่น นี่ นั่นตั้งแต่ ๖ โมงเช้า จนถึง ๖ โมงเย็น

พอได้ออกแรง ออกความคิดสั่งงานทำงาน มันยิ่งทำให้มองเห็นทุกข์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ถือว่าการงานกลายเป็นเครื่องเตือนสติให้ระลึกรู้จักทุกข์ได้มากยิ่งๆ ขึ้น

มาทำงานครั้งนี้ได้ให้ทิดคมสันช่วยพาแม่มาด้วย ดูแม่จะชอบเพราะได้เปลี่ยนบรรยากาศ เห็นได้จากการที่แม่มีอาการร่าเริง พูดคุย ทักทาย เล่นกับคนใกล้ชิด อีกทั้งยังได้ไปแช่น้ำร้อน ทำให้แม่ดูกระตือรือร้นมากขึ้น

ซึ่งต่างจากอยู่ที่วัด แม่จักไม่พูดคุยกับใคร เอาแต่นอน อาหารเช้ากลายเป็นอาหารบ่าย อาหารเย็นกลายเป็นอาหารดึก เพราะท่านไม่ยอมตื่นมากินข้าว

แต่พอแม่มาอยู่ที่ทองผาภูมิ อากาศดีทุกๆ เช้าจักมีหมอกหนาจนถึงเกือบ ๙ โมงเช้า

แม่จะตื่นตั้งแต่ตี ๕ กว่าๆ แถมยังร้องตะโกนปลุกคนอื่นๆ ให้ลุกขึ้นมาด้วย พอแม่ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ เจ้าศรก็พาแม่มานั่งรถเข็นรอให้ฉันเข็นมาชมบรรยากาศรอบบริเวณที่พัก พอสายๆ เจ้าศรก็พาแม่ไปโรงครัวทานอาหาร

เราก็แยกไปสั่งงานคนงาน ที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ตี ๓ หลังจากเจริญภาวนาแล้ว ทำให้มีปัญญามองเห็นปัญหาที่สั่งให้คนงานที่แก้ไข

เช้าขึ้นมาจึงสั่งงานมอบงานให้แต่ละคนได้อย่างต่อเนื่อง ชีวิตแบบนี้ก็ดีไปอย่าง

อยู่กับตัวเอง อยู่กับการงานที่ต้องทำเพื่อผู้อื่น

มีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น คนอื่น จนเคยชิน

มันเลยไม่รู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อการงานที่ทำ

ทั้งยังรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าทุกครั้ง ทุกเช้า ที่ได้ลงมือทำการงาน

ทำงานเพื่อคนอื่นนี่มันก็ตัวเบาอย่างนี้นี่เอง เพราะไม่เคยคิด ไม่เคยถามว่าเราจักได้อะไรตอบแทน ขอเพียงได้ทำ ได้ให้ จิตใจก็ยิ่งเบาสบาย

ที่หยิบมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้ท่านทั้งหลายลองทำดูบ้าง เผื่อจะพบเส้นทางชีวิตของตัวเอง ที่ถึงปลายทาง คือคำว่า พอ

แม้อยากให้บรรดานักการเมืองบ้านเรา คิด ทำ อย่างนี้บ้างจังเลย

คนไทยคงจักมีความสุขมากกว่านี้ พรุ่งนี้พบกันใหม่นะจ๊ะ

พุทธะอิสระ