ปฏิบัติธรรมภาคค่ำ
19กรกฎาคม 2551

คำถาม    เวลาโยนของลงพื้น เสียงเกิดก่อนหรือว่าจิตรู้ก่อน  ให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างจิตกับเสียงให้ชัด
แจ้ง  และการเดินทางของเสียงมาสู่จิต  และการเดินทางของจิตที่เข้าไปหาเสียงมันมีขั้นตอน มีระยะเวลา มีช่วงจังหวะของการเดินทาง  เข้าใจรู้จักอย่างนี้เราก็จะรู้ว่าที่จริงมันหักห้ามจิตที่จะไปรู้สิ่งต่างๆได้  แม้ที่สุดก็หักห้ามเวทนาที่เกิดขึ้นจากความเจ็บปวด จากความทุรนทุรายของร่างกายก็สามารถทำได้  เพราะเราไม่ให้จิตมันเข้าไปรับรู้สภาพธรรมที่ปรากฏ  เวทนาทางกาย ทางแข ทางขา ทางหัว ทางตา อะไรอย่างนี้มันสามารถทำได้ฝึกให้จิตสามารถคอนโทรลมันได้ คนที่ไม่รู้แล้วมารู้เอาตอนตกใจแล้วแสดงว่ามันไม่มีสติ ไม่มีตัวรู้อยู่พอวิ่งไปรับก็หน้าหงายกลับมา เหมือนเสียงมันกระทบชนเรา หรือเหมือนเราวิ่งไปชนกำแพง จิตนี่มันอ่อนไหวเวลาที่มันเจอกับอะไรที่ไม่คุ้นเคย  แล้วไม่ได้ตั้งตัวมันก็จะตกใจ  แต่ถ้าเราเตรียมตัวจิตมันตั้งท่าไว้ก็จะไม่ตกใจ  แต่ถ้าอยู่ดีๆเพลินๆมีเสียงกระทบเสียงดังมันก็เลยวิ่งชนอย่างจังหงายหลังตกใจ  นั่นก็ให้รู้ไว้ว่าเราไม่ได้มีสติครอง
คำสั่ง    ลุกขึ้นยืนปรับท่ายืนให้ดี ดูซิว่าร่างกายมีความสุขกับการยืนไหม  อะไรที่มันติดขัด  ยืนอย่างไรที่มันผ่อนคลาย  ไม่ให้เป็นโทษต่อท่ายืน  กล้ามเนื้อก็ต้องไม่ให้รับโทษต่อการยืน  อย่างนี้เขาเรียกว่าคนไม่ทำร้ายตัวเอง
คำสั่ง    หลับตาลงอย่างแผ่วเบา นิ่มนวลสุภาพ  ส่งความรับรู้ไปภายในกาย  ให้มีตัวรู้เฉพาะที่กายไม่ออกนอกกาย   เริ่มไล่ตั้งแต่ปลายเท้า ฝ่าเท้าขึ้นมา  รับรู้ตั้งแต่ฝ่าเท้าสองข้างน้ำหนักเสมอ  ลำตัวตั้งตรงเป็นฉากกับพื้น ให้ร่างกายสมดุล  แขนสองข้างทิ้งข้างลำตัว ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ
คำสั่ง    สูดลมหายใจเข้าเบาๆ ยาวๆ ลึกกว้าเต็มไปให้ถึงปลายเท้า  ให้ลมวิ่งไปให้ถึงปลายเท้า  อยู่ใต้ฝ่าเท้าได้ยิ่งดี  แล้วหายใจออกจากฝ่าเท้าขึ้นมา  ขึ้นมาทางข้อกระดูก โพรงกระดูก  แล้วออกทางจมูก (ทำซ้ำอีกที)
คำสั่ง    หายใจเข้าลงไปถึงช่องท้อง ใต้สะดือประมาณหัวเหน่า  แล้วออกจากช่องท้องกลับมาที่ปลายจมูก
คำสั่ง    หายใจเข้าลงไปถึงนิ้วมือ  หายใจเข้าจมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะ ต้นคอ หัวไหล่ ท่อนแขนด้านบน ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ ฝ่ามือ ปลายนิ้วมือ หายใจออก (ทำซ้ำอีกที)
คำสั่ง    กลับมาหายใจยาว หายใจเข้าจมูก  หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง ลงไปกระดูกสันหลัง ก้นกบ ตะโพกสองข้าง ใต้ท่อนขาด้านบน ขาพับ ลงไปที่น่อง ข้อเท้า ส้นเท้า ฝ่าเท้า หายใจออก
คำสั่ง    สูดลมหายใจเข้าจากฝ่าเท้าขึ้นมา ดึงลมจากข้างล่างขึ้นบน ขึ้นมาถึงจมูกก็หายใจออก
คำสั่ง    หายใจลมเข้าจมูกแล้วกดลงล่าง ไล่ลงไปถึงฝ่าเท้าใหม่  แล้วหายใจออก
คำสั่ง    หายใจเข้าจากฝ่าเท้า จากล่างขึ้นบน
คำสั่ง    ลองหายใจเข้าจากปลายนิ้วมือ ฝ่ามือ ข้อมือ ท่อนแขนด้านล่าง ข้อศอก ท่อนแขนด้านบน หัวไหล่ ต้นคอด้านหลัง ศีรษะด้านหลัง กลางกระหม่อม หน้าผาก  แล้วออกจมูก (ทำซ้ำหลายๆครั้ง)
    ลองทำดูอาการมันเหมือนกับเรากำลังจะดูดพลังความร้อน ดูดอากาศเข้ามาฝ่ามือ ปลายนิ้วมือมันจะมีอาการแบบนั้น  แล้วมันจะวิ่งมารวมกันอยู่ที่ข้อต่อของคอ  ระหว่างไหล่กับหลังมารวมที่คอ  แล้วมันจะวิ่งขึ้นมากะโหลกศีรษะด้านหลังผ่านกลางกระหม่อมไปที่หน้าผากแล้วออกจมูก (ลองทำดู)
คำสั่ง    กลับมาหายใจยาวเข้าจมูก ลำคอ หน้าอก ลิ้นปี่ ช่องท้อง ลงไปที่หัวเหน่า แยกไปที่ขาสองข้าง หน้าขา  หัวเข่า หน้าแข้ง ข้อเท้า หลังเท้า ปลายนิ้วเท้าหายใจออก
คำสั่ง    สูดลมเข้าจากปลายนิ้วเท้าเข้าไป  ขึ้นไปข้างบนไล่ย้อนกลับ จนถึงหัวเข่า ถึงหน้าขา ถึงหัวเหน่า ถึงสะดือ ลิ้นปี่ หน้าอก เข้าลำคอ หายใจออกทางปาก
คำสั่ง    หายใจเข้ากลับไปช่องเดิม  ทำให้คล่อง ให้ไหลลื่นไม่ติดขัด  ทะลวงทุกข้อให้ลื่นไหล ไม่ให้ปราณไม่ให้ลมมันติดขัดช่องใดเลย
คำสั่ง    ให้เดินลมตามใจปรารถนา   ตรงไหนติดขัดเดินเข้าไป หลังมันปวด  กระเบนเหน็บมันขัดเดินลมไปตามจุดนั้นดูซิรักษาตัวเองได้ไหม ทำให้มันโล่งได้ไหม  หัวมันมึน สมองมันตึง ลองเดินลมดูซิ ให้ทุกส่วนในร่างกายมันโล่ง  ยิ่งทำจนกระทั่งเห็นลมกลายเป็นแสง  เป็นกระแสไฟฟ้า เป็นเหมือนสีแดง สีเปลวไฟ สีแสด สีส้ม สีขุ่นขาวแก้วผลึก ก็ยิ่งเป็นเรื่องดีเพราะแสดงว่านั่นเป็นนิมิตเครื่องหมายแห่งจิตที่ผูกได้  เป็นสัญญาลักษณ์ที่จิตจะแนบแน่น แสดงว่าอารมณ์เราแนบแน่นมากขึ้น
คำสั่ง    สูดลมหายใจเข้ากักลมทิ้งไว้ ไม่ต้องให้ออกไปทางไหน จนลมมันดันออกจากขุมขน รับรู้ได้ว่าตัวพองขึ้น  แล้วผ่อนลมออกเบาๆยาวๆให้ผ่อนคลาย  เขาเรียกว่าคลายอารมณ์กลับไปจะได้นอนหลับ  ถ้าไม่คลายอารมณ์ มันจะตื่นอยู่อย่างนี้ตลอดจะนอนหลับไม่ได้ หรือหลับยาก
คำสั่ง    สูดเข้าไปใหม่  หายใจเข้าลึกๆ กว้างลึกเต็มรู้ แล้วกักลมทิ้งไว้ ให้ลมมันดันพุ่งพล่านออกไปตามรูขุมขนซ่านไปทั่วผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะทุกส่วนโป่งพองรับรู้ได้  แล้วคลายลมออกยาวๆเบาสบาย ให้เหลือแต่ความวางแล้วว่างสบาย ไม่มีอารมณ์ฌานปรากฏอยู่ (ทำซ้ำอีกครั้ง)
คำสั่ง    กำหนดลมหายใจเข้า ภาวนาสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข
    หายใจออกสัตว์ทั้งปวงจงพ้นทุกข์
    ค่อยๆยกมือไหว้พระกรรมฐานภาวนาว่า สาธุวันทากรรมฐานัง
คำสั่ง    ค่อยๆนั่งลงแล้วลืมตา