การจับปรอท
1. องค์หลวงปู่ให้นำไข่มา ท่านนำไข่ไก่มาลงอักขระ
1.1 ด้านบนท่านลงยันต์สวัสดิกะไว้ด้านบน
1.2 ตรงกลางไข่ ลงคาถาไว้ โอม นะมะ พะ ทะ มานิมานะ พุทธัสสะ สวาโหม
1.3 ด้านล่างนำผ้าแดงมาปิดไว้
2. ท่านเจาะรูเล็กๆ โดยใช้เข็มเจาะรูด้านบนของไข่
3. ท่านให้นำไข่ไปตากแดด ตอนเที่ยงวัน จะให้ไข่ขึ้นฟอง
4.  ท่านให้ผู้ที่จะทำหน้าที่นำไข่ไปผึ่ง ถือศีล 8
นำไข่ไปผึ่งที่กุฏิหลวงตาสนิท จำนวน 12 ใบ
5. ขั้นตอนในการไปฝัง เวลา 21.00 น.
ทำการขอขมาหลวงตา ใช้ธูป 8 ดอก เทียนดอกบัว 3 ดอก กล่าวคำขอขมา
และให้หลวงตาชอบจับพญาปรอท......ด้วย

15 ส ค 54
การฝังไข่เพื่อดักปรอท
หลวงปู่มอบเทียนขาวขี้ผึ้งแท้หนัก 2 บาท จำนวน 2 แท่ง
ลงอักขระ มงกุฏพระพุทธเจ้า 2 ด้าน และท่านได้นำเลือดของท่านมาเจิมบนอักขระทั้ง 2 ด้าน
เมื่อเริ่มจะฝัง ท่านให้จุดเทียนก่อน และห้ามให้เทียนดับ มิฉะนั้น ปรอทจะวิ่งเข้าตัว
รอเวลา 21.39 น. มีเวลาฝัง 19 นาที  ขุดหลุมลึก ครึ่งศอก
นำไข่ลงไปฝัง ขณะวางลงหลุมที่ขุดไว้ ให้ว่าคาถา 
“โอม นะมะพะทะ มานิมานะ พุทธัสสะ สวาโหม”
เวลากลบดินฝัง ให้ว่าคาถาย้อนกลับ
เมื่อทำพิธีเสร็จ ก็แผ่เมตตา เสร็จพิธีฝัง
ในขณะประกอบพิธี ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพิธี
พอเสร็จพิธี พวกเราออกมาแล้ว ปรากฏว่า ลืมไข่ที่เหลือเอาออกมาด้วย
จึงต้องย้อนกลับไปเอาไข่ออกมา
เพราะไข่มีมูลค่า ใบละ 50,000 บาท ลืมไว้ประมาณ 10 กว่าฟอง

28 ส ค 2554 วันพระ แรม 14 ค่ำ เดือน 9
การกู้ไข่ที่ไปดักปรอทไว้
1 ทุกคนรับศีล 8 องค์หลวงปู่เมตตา พรมน้ำมนต์ให้บนศาลาฝั่งตะวันตก
 และให้ว่าคาถา
เวลากู้ประมาณ 18.00 น.
2 ไปกู้ไข่   2.1 ท่านให้เอาบาตรน้ำมนต์ไปด้วย
   2.2  พานพร้อมผ้าแดง (ขอขมาหลวงตาก่อน)
3 ก่อนที่จะเริ่มกู้ ให้พวกเราพรมน้ำมนต์ และว่าคาถา
 “โอม นะมะพะทะ มานิมานะ พุทธัสสะ สวาโหม”  ทุกคน
 ทำการกู้ ปรากฏว่า ได้ไข่คนละ 3 ฟอง  เป็น 9  ที่เหลือ 3 ฟองแตก
 นำไข่ใส่พานและห่อด้วยผ้าแดง นำกลับไปถวายองค์หลวงปู่ เสร็จพิธี
(ตอนหลังกลับมากู้ไข่ที่แตกอีก 3 ฟอง จะนำรายละเอียดมาเล่าทีหลัง)

หลังจากกู้ปรอทได้ คืน 28 ส ค 54
ขั้นตอนในการนำปรอทออกจากไข่
ที่ห้องทำงานองค์หลวงปู่ข้างโรงยา
องค์หลวงปู่ทำการดักปรอทเองด้วย ที่สระบัวข้างห้องทำงาน จำนวน 3 ฟอง
(ไข่ที่ท่านนำไปฝังเสีย 1 ใบ)
ท่านนำใบบัวมาเป็นที่รองรับ ในขณะที่จะนำปรอทออกมาจากไข่
นำมีดที่จับปรอทมาจุ่มเลือดของท่าน
แล้วล่อให้ปรอทออกจากไข่ เมื่อปรอทออกมาแล้ว จะใช้น้ำผสมเลือดของท่านมาล้าง
ท่านบอกว่า ที่ต้องใช้น้ำผสมเลือด เพื่อให้ปรอทช้าลง
จากนั้น ท่านได้เล่าการนำปรอทออกจากไข่ทั้ง 11 ใบ
องค์หลวงปู่ให้ความรู้เกี่ยวกับปรอท
ปรอทมีอยู่ 7 ชนิด
     ชนิด                  คุณสมบัติ
1 ปรอท ทอง     แข็งแรง
2  ปรอท เหล็ก  เหนียว
3  ปรอท เงิน  วาสนา
4  ปรอท ดิน  เย็น
5  ปรอทไม้  ยั่งยืน
6  ปรอท ลม  เป็นอาวุธของคนธรรพ์
7  ปรอท ไฟ  เป็นพญาปรอท หายาก เป็นปรอทของพระฤษี
ปรอทแก้ว เป็นปรอทพิเศษ คุณสมบัติ ดั่งแก้วสารพัดนึก
ไข่ใบที่ 1  เป็นปรอทเหล็ก ตัวปรอทมีสีดำ คล้ายลูกเหล็กเล็กๆ เกาะกันเป็นแพ
ใบที่ 2  เป็นปรอททอง น้ำของไข่ที่ออกมามีสีเหลืองของไข่เป็นปกติ
เหมือนไข่ที่เรานำมาเจียว
องค์หลวงปู่บอกว่า ปรอททองเป็นปรอทผู้ดี กินไม่มูมมาม มีสติ
ใบที่ 3  เป็นปรอททอง ออกมาเกาะกันคล้ายไข่ปลา มีฟองอากาศอยู่ด้านบน
  ฟองเป็นสีรุ้ง คล้ายสีปีกแมลงทับ
  องค์หลวงปู่บอกว่า เป็นฟองที่ปรอทหายใจออกมา
ใบที่ 4  เป็นปรอทดิน กลิ่นของเนื้อไข่ที่ออกมา เหม็นมากและมีสีดำ
ตัวปรอทเองเป็นสีดำ เกาะกันเป็นแพ คล้ายปรอทเหล็ก ปรอทดินหายใจ
แต่ปรากฏว่า ฟองอากาศก็หายใจกลับอยู่ข้างใต้ใบบัวเป็นแพ
ไข่ใบที่ 5 เป็นปรอทเงินกับทอง วาสนาดี
  ปรอทเงินออกมาก่อน เป็นปรอทหายากมาก มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ เงา แวววาว
ไข่ใบที่ 6 เป็นปรอทนาค วิ่งเร็ว แข็งแรง สีของไข่เป็นสีออกแดงอ่อน
มีแร่สัตตะโลหะติดมาด้วย
ไข่ใบที่ 7 เป็นปรอทดินกับนาค มีกลิ่นฉุน สีของน้ำไข่ที่ออกมาค่อนข้างมีสีดำ
  มีฟองอากาศหายใจมาก และเป็นประกาย มีจำนวนพอสมควร
ไข่ใบที่ 8 เป็นปรอท ดิน เหล็ก และไฟ เป็นพญาปรอท เป็นปรอทของพระฤาษี
  สารพัดประโยชน์ดั่งใจนึก มีเยอะมาก อ้วน สมบูรณ์ น้ำหนักดี
  ทำให้ใบบัวลู่ลงมาลึกมาก (ใบบัวกางอยู่ในชาม) มีปรอทดินมากกว่า
  และจับกันเป็นแพใหญ่ ซึ่งหายากมาก มีประกายแวววาว
ใบที่ 9  เป็นปรอททองกับไฟ ปรอทไฟมากกว่า เป็นพญาปรอท สีของเนื้อไข่จะสุกใสเหลือง
  เป็นปรอทมีน้ำหนัก ตัวปรอทมีขนาดใหญ่มาก มีสีแวววาว (มีภาพให้ดู)
เป็นพญาปรอท (มีภาพให้ดู) ซน ไม่ตะกละ
ใบที่ 10 ของหลวงปู่ เป็นปรอทแก้ว จับยากมาก ต้องใช้เลือดล่ออยู่ถึง 2 ครั้ง
  มีหนอนเกาะทั่วใบไข่ หนอนเกาะอยู่ในน้ำนอกเปลือกไข่
  แต่หนอนยังมีชีวิตอยู่ได้โดยปรอทช่วยรักษาไว้
ปรอทแก้วโดนลมจะหาย ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าของน้ำไข่ ถึงแม้จะมีหนอนขึ้นก็ตาม
ใบที่ 11 เป็นปรอทลม เป็นปรอทที่หาได้ยากมาก แต่คุณวิเศษมาก เป็นอาวุธของพรายน้ำ
ปรอทไม่ยอมรวมตัวกัน กลายเป็นอากาศธาตุ
จากนั้น พวกเราเห็นว่าได้ปรอทไม่มากนัก จึงพูดคุยกันว่า จะกลับไปกู้ไข่อีก 3 ใบที่แตก มาให้ท่าน
จึงพากันไปกู้มาให้ท่าน และแล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น
ไข่ที่ไปกู้มาทั้ง 3 ใบ เมื่อท่านใช้น้ำเลือดของท่านล้างเอาดินที่ตกลงในไข่ออก
ปรากฏว่า มีปรอทจับตัวกันเป็นแพใหญ่มาก แวววาว และมีขนาดใหญ่มาก
ท่านบอกว่า มีมากกว่าทั้ง 11 ใบอีก
ท่านพยายามจะจับพญาปรอทลงในชามที่มีเลือดอยู่ ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่สำเร็จ
มีครั้งหนึ่งเกือบจะจับใส่ชามได้แล้ว ปรากฏว่า ตัวปรอทแบ่งตัวออก
เพื่อให้หลุดพ้นจากการจับของท่าน
ท่านบอกว่า พวกมันสามารถรวมตัวและแยกตัวได้ เวลามีภัยมา
จากนั้นท่านก็บอกว่า พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว
สุดท้าย ก็แยกย้ายกันกลับบ้านเวลา 22.00 น.
เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ของพวกกระผมที่จะจดจำไปตลอดชีวิต
พวกกระผมขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาขององค์หลวงปู่พุทธะอิสระมาก
ที่ได้มอบประสบการณ์ทางจิตวิญญาณให้พวกกระผมในครั้งนี้
บันทึกโดย เฮียหมู