ปุจฉา:

กราบนมัสการหลวงปู่พุทธอิสระ คณะของข้าพเจ้ามีความประสงค์จะสร้างพระพุทธกัสสปะองค์ใหญ่ หน้าตัก 6 เมตร ที่วัดพระพุทธบาทไพศาลี (อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์)ซึ่งมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธกัสสป ทรงประทับไว้ ตามคำบอกของพระราชพรหมเถร (วีระ  คณฺตฺตโม )รองเจ้าอาวาสและพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำภาษีเจริญ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2540 คราวเมื่อมากับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ที่ทรงเสด็จมาเป้นประธานในพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยอดพระมณฑป   เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 31 มกราคม 2511 ข้าพเจ้าได้ไปที่วัดปทุมธาราม (หนองบัว)อ.พระสิงห์ จังหวัดชัยนาท ที่พระครูปทุมชัยกิจ "หลวงปู่นะ"เป็นเจ้าอาวาส ได้เห็นรูปพระปฏิมากรขององค์พระพุทธกัสสป ในหนังสือ"พระพุทธวงศ์" หลวงพ่อเสวก ปัญญาทีโป เล่าว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ เป็นผู้อธิบายลักษณะของพระพุทธปฏิมากรแต่ละพระองค์องค์พระกัสสปะพระพุทธเจ้านั้น ตามหนังสือ"พระพุทธวงศ์"เป็นพระพุทธรูปทรงเกศบัวตูม สมาธิราบ และยกพระกรขึ้นทั้งสองข้าง ระดับไหล่ นิ้วโป้ง และนิ้วชี้จรดกันในลักษณะจีบซึ่งแต่เดิมนั้นข้าพเข้าตั้งใจจะปั้นเป็นพระเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ตามคำบอกของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ข้าพเจ้าจึงใคร่เรียนถามหลวงปู่ฯว่า ถ้าข้าพเจ้าจะทำเป็นพระพุทธรูปเชียงแสนจะถูกต้องหรือไม่ประการใด เพราะ ถ้าเป็นแบบยกพระกร ช่างจะทำยาก และอาจไม่งาม 

กราบหลวงปู่ฯด้วยความเคารพอย่างสูง และหวังว่าข้าพเจ้าคงได้เคยร่วมทำบุญกับหลวงปู่มาบ้าง หลวงปู่จึงเกิดความเมตตาและมีวิสัชนากับปุจฉานี้


วิสัชนา: พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ทรงมีมหาปุริลักษณะ 32 ประการไม่แตกต่างกัน  จะต่างกันตรงที่พระชนมายุยาวสั้นต่างกัน และเวลาในการประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรมปรินิพพาน เหล่านี้จะแตกต่างกัน แล้วแต่พุทธบารมีที่ทรงสั่งสมมา รวมทั้งอายุขัยและปัญญา ของสรรพสัตว์ในยุคสมัยนั้น ๆ ด้วย
หากคุณจะสร้างพระพุทธปฏิมา ควรจะต้องรักษา มหาปุริลักษณะ ทั้ง 32 เอาไว้ให้ครบ ส่วนลีลาของพระพุทธปฏิมานั้น สุดแต่ความชอบและเชื่อของผู้สร้าง แต่ควรจะระมัดระวังอย่าให้เสียพุทธจริยา


พุทธะอิสระ