วันนี้เสนอคำว่า มาฆบูชา

มาฆบูชา หมายความว่า การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือน ๓

มีต้นเหตุมาจาก พระอริยสาวกจำนวน ๑,๒๕๐ รูป ต่างพร้อมใจกันมาประชุม เพื่อเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร ขออนาถบิณฑิกเศรษฐีซึ่งก็ตรงกับวันเพ็ญกลางเดือน ๓ พอดี

และที่พิเศษจนนำมาซึ่ง ชาวพุทธต้องทำการบูชาอันยิ่งก็ตรงที่องค์พระบรมศาสดา ทรงแสดงหลักการปฏิบัติอันยิ่ง ที่ถือว่าเป็นบทสรุปประมวลคำสอนทั้งปวง ให้เหลือแค่คำว่า

สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง

การไม่ทำบาปทั้งปวง

กุสะลัสสูปะสัมปะทา

การทำกุศล (คือความชาญฉลาดอย่างถูกต้องงดงาม) ให้ถึงพร้อม

สะจิตตะปะริโยทะปะนัง

การชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้ว แจ่มใส

เอตัง พุทธานะสาสะนัง

ธรรม ๓ อย่างนี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

และด้วยพระพุทธธรรมอันวิเศษนี้ หมู่มนุษย์และเทวดาทั้งหลายจึงถือว่า เป็นหลักคิด หลักชัย หลักใจ หลักชีวิต

ผู้หวังความเจริญ ความหลุดพ้นจากความเสื่อม ควรจักปฏิบัติตาม

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระเมตตาคุณ พระปัญญาคุณ และพระบริสุทธิคุณ ในองค์พระบรมศาสดา

มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย จึงพากันทำการบูชาในพระพุทธคุณอันประเสริฐยิ่งนั้นด้วย อามิสบูชา คือการบูชาด้วยอามิสทั้งหลาย เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น

ปฏิบัติบูชา คือการปฏิบัติตามพระพุทธธรรมคำสอน

คือการละความชั่วทางกาย วาจา และใจ

การทำทุกวิถีทางเพื่อให้สติปัญญาเจริญ และการหมั่นสำรอก ชำระจิตให้ปราศจากอารมณ์ทั้งปวงเหล่านี้ ล้วนเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

พุทธะอิสระ