วันนี้เสนอคำว่า

อะเสวะนา จะ พาลานัง การไม่คบพาล

ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา การคบบัณฑิต

เอตัมมังคะละมุตตะมัง ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด

อธิบายคำว่า คนพาล หมายถึง คนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้

คนไม่มีปัญญา

คนผู้ไม่ละอาย

คนผู้ไม่มีศีล

คนผู้ไม่รู้คุณ ท่านผู้มีพระคุณ

คนผู้กระทำทุจริตทางกาย เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม

คนผู้กระทำทุจริตทางวาจา เช่น พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ พูดคำหยาบ

คนผู้กระทำทุจริตทางใจ เช่น โลภอยากได้ของที่เจ้าของเขาไม่ให้ พยายามปองร้ายเขา เห็นผิดจากทำนองคลองธรรม

นอกจากนี้คนพาลยังมีสันดานเห็นแก่ตัว เอาเปรียบ ไม่มีสัจจะ ไม่จริงใจ

มูลเหตุที่เขียนเรื่องนี้ ก็มาจากเหตุการณ์บ้านเมืองหลายๆ เรื่อง ทั้งเงินทอนวัด เรื่องพรรคการเมืองทั้งหลายพยายามเฟ้นหาตัวบุคคลมาเข้าพรรคของตน เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง เพื่อให้ได้คะแนนเสียง จึงไม่สนใจหรอกว่า ใครมันจะเป็นคนพาล ใครมันจะเป็นคนดี สนแต่เพียงว่า คุณมีฐานเสียงอยู่ไหม ลงเลือกตั้งแล้วจักได้รับเลือกหรือไม่

และเรื่องข่าวบุคคลในรัฐบาล คสช. เปิดช่องให้อดีตนักการเมือง เข้ามาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีเพื่อปูทางให้ชนะการเลือกตั้งในครั้งหน้า

พุทธะอิสระได้รับฟังคำปรารภของพี่น้อง ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เขาร่วมสู้ ร่วมเสียสละ จึงได้มาซึ่งวันนี้

เขาต่างบ่นให้ฟังด้วยความเป็นห่วงเป็นใยภาพลักษณ์ของรัฐบาล คสช. และหลวงพ่อประยุทธ์ จันทร์โอชาว่า “จักไปเข้าทางคนพาลเสียแหละกระมั่ง”

หากคิดว่าการจะชนะการเลือกตั้ง แล้วกลับมามีอำนาจได้ต้องกวาดต้อนคนพาลให้เข้ามาเป็นพวก

เช่นนั้นมันจะต่างอะไรกับนายทักษิณ ที่สมัยตั้งพรรคใหม่ๆ มีคนเคยทักท้วงว่า ผู้ที่นายทักษิณไปชวนมาร่วมพรรค ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับมหาโจร เป็นคนพาลทั้งนั้น

จำได้ว่า นายทักษิณพูดว่า หากคบกับโจร ใช้โจร แล้วทำให้ชนะการเลือกตั้งได้ ก็ถือว่าคุ้ม อะไรประมาณนี้แหละ เหมือนกับคำพูดของประธานเหมาของจีนที่ว่า แมวถ้าจับหนูได้ ไม่ว่าจะเป็นแมวสีอะไรก็ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น

หรือว่าคำพูดเหล่านี้ คสช. จักยืมมาใช้เพื่อสืบทอดอำนาจด้วยการไปกวาดคนพาลมาเข้าฝูง

ขอบอกว่า พวกเราไม่ได้เชื่อนายทักษิณ พวกเราคนไทยไม่ได้เชื่อประธานเหมา แต่พวกเราเชื่อพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนเอาไว้ว่า อย่าคบคนพาล จงคบแต่บัณฑิต ทั้งยังทรงสำทับอีกว่า “การคบคนพาล นั่นเท่ากับว่าการคบศัตรู”

เวลานี้คนไทยไม่ได้โง่เหมือนแต่เก่าแล้ว

คนไทยส่วนใหญ่รู้ตื่น จากอำนาจมืดของคนพาลแล้ว

ฉะนั้น แม้บริวารหรือคนรอบข้างของหลวงพ่อประยุทธ์ จักเที่ยวไปกวาดต้อนบรรดานักการเมืองที่มีประวัติทั้งที่พอจะรับได้ และเลวจนถึงขนาดคนได้ยินชื่อก็สะอิดสะเอียน เอาเข้ามาอยู่ในก๊วนการเมืองของคนใกล้ชิด คสช. และใกล้ชิดหลวงพ่อประยุทธ์เพื่อชนะการเลือกตั้ง

แล้วไอ้ที่หลวงพ่อประยุทธ์เทศน์ เอาไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เรื่อง หิริ ความละอายชั่ว โอตัปปะ ความเกรงกลัวบาปล่ะ

มันมิอาจนำมาใช้กับการเลือกคนเข้าพรรคดอกหรือ

ที่เขียนมานี้ก็ด้วยความเป็นห่วง พวกเราคนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่อยากให้เห็นเทวดาตกสวรรค์ เป็นผู้ล้มเหลวในความละอาย

พุทธะอิสระ