- ผู้มีราคะ โทสะ โมหะ ครอบงำ จนสร้างความยุ่งยากให้เกิดสารพัดปัญหาแก่ชีวิต
หากต้องการกำจัดอารมณ์ที่ก่อให้เกิดปัญหาเหล่านั้น เพื่อให้บรรลุถึงคุณธรรมสูงสุดของชีวิต ต้องเจริญกรรมฐานดังนี้
ราคะ แก้ด้วยอสุภกรรมฐาน และกายคตานุสติ
โทสะ แก้ด้วย การเจริญเมตตาพรหมวิหารและกสิณ ๔
โมหะ แก้ด้วย การเจริญอานาปานสติกรรมฐาน และควรเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
แต่ด้วยอำนาจพลังของราคะ โทสะ โมหะ อันแก่กล้าที่ครอบงำจิตสันดาน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของมนุษย์ที่ต้องการหลุดพ้น จึงต้องเพียรพยายามอย่างยิ่ง ทำให้บังเกิดความยากลำบากอย่างยิ่ง
และใช้เวลาอันเนิ่นนานมากมายอย่างยิ่ง กว่าจะเข้าถึงความหลุดพ้น เช่นนี้จึงชื่อว่า ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา
ปฎิบัติอย่างยากลำบาก จึงจะบรรลุธรรมได้อย่างล่าช้า
- อีกจำพวกหนึ่ง ผู้มีราคะ โทสะ โมหะ เข้าครอบงำอย่างท่วมท้นจนต้องเสวยความทุกข์ โทมนัส อย่างแสนสาหัสเช่นนี้
หากต้องการหลุดพ้นจากเภทภัยแห่งความทุกข์ โทมนัสนั้นๆ ต้องเจริญอสุภกรรมฐาน คือ พิจารณาให้เห็นอสุภะ ซากศพ เป็นอารมณ์อย่างต่อเนื่อง เนืองๆ
และต้องปฏิบัติด้วยพละกำลังของความศรัทธา ขยันหมั่นเพียร มีสติตื่นรู้ถึงคุณแห่งซากศพ ที่ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์ตลอดเวลา แล้วใช้ปัญญาพิจารณาเอาซากอสุภะมาคอยทำลาย ราคะ โทสะ โมหะ อันเป็นสาเหตุของทุกข์ โทมนัส
(หากไม่สะดวกในการพิจารณาซากศพ ก็สามารถพิจารณาปฏิกูล สัญญาความไม่สะอาดในกายตน และผู้อื่นเป็นอารมณ์ก็ได้)
ทำอยู่เช่นนี้จนสามารถหลุดพ้นจากการครอบงำของราคะ โทสะ โมหะ เสียได้ เรียกว่า ทุกขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา
ปฏิบัติลำบากแต่หลุดพ้นได้เร็ว
วันนี้ขอนำเสนอปฏิปทา ทั้งสองพอแค่นี้ วันหน้าจะนำมาเสนอในข้อต่อๆ ไป
 
พุทธะอิสระ