คราวที่แล้วได้หยิบยกเอากรรม ๑๒ มาวิสัชนาแก่ผู้สงสัยไปในระดับหนึ่งไปแล้ว
แต่ดู ดู เหมือนผู้รับรู้รับฟัง ยังจะไม่แจ่มชัดถึงรากเหง้าของกรรมทั้งปวง
วันนี้จึงขอนำกรรมทั้ง ๑๒ อาการ มาอธิบายขยายความให้ท่านทั้งหลายได้เข้าใจ ให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น หรือไม่ บางคนมีสติปัญญากล้าแข็ง อาจรู้สึกสว่าง กระจ่างแจ้งขึ้นมาบ้างก็เป็นได้
ทีนี้เรามาเริ่ม ทำความเข้าใจในกรรม อาการแรกอันเป็นต้นรากต้นธรรมกันก่อนเลยนั่นก็คือ ชนกกรรม
ชนกกรรม หมายถึง กรรมแต่งให้เกิด ที่เป็นได้ทั้งต้นเหตุ และเป็นได้ทั้งผล
อธิบายขยายความได้ว่า
ที่ว่าเป็นต้นเหตุเพราะ เป็นเหตุให้เกิดกรรมทั้งปวง ทั้งที่เป็นกุศลกรรม อกุศลกรรม และอัพยากตธรรม (กรรมที่เป็นกลางๆ)
ตัวอย่างเช่น ชนกกรรม ตกแต่งให้มาเกิดในชาตินี้ แต่งให้เป็นหญิง แต่งให้เป็นชาย แต่งให้มีเพศภาวะไม่สมบูรณ์ แต่งให้อยู่ในชาติตระกูลสูง ต่ำ หรือปานกลาง
ชนกกรรม ยังประดับประดาตกแต่งให้เกิดมาโงง ฉลาด สูง ต่ำ ดำ ขาว ผิวสะอาดละเอียด หรือ ผิวหยาบกระด้าง
อีกทั้งขนกกรมยังตกแต่งให้เป็นคนมีพื้นฐานจิตใจที่ดีงามมาแต่เกิด หรือมีจิตใจหยาบกระด้าง ต่ำทราม มาแต่กำเนิด
แม้ลักษณะนิสัยที่ขวนขวาย ขยันหมั่นเพียร หรือขี้เกียจซกมก มักง่าย หยาบกระด้าง หรือเฉื่อยชา ล่าช้า วางเฉย ชนกกรรมก็ทำหน้าที่ตกแต่งให้เป็นไปตามสิ่งที่ตนได้สั่งสมมาเมื่อครั้งอดีต ซึ่งมีทั้งดี ชั่ว เลว หยาบ หรือจะดีเลิศประเสริฐพร้อม แม้เฉยชา วางอุเบกขาในทุกอย่าง ชนกกรรมก็ทำหน้าที่ตกแต่งให้เป็นไป
เหล่านี้คือ ชนกกรรมเป็นเหตุ
เมื่อมนุษย์และสัตว์สั่งสมอบรมพฤติกรรมอันเป็นต้นเหตุใดๆ มาตั้งแต่อดีตพอมาถึงปัจจุบันชาติ มูลเหตุอันเป็นต้นธาตุ ต้นธรรมทั้งดี ทั้งชั่ว หรือเฉยๆ ก็จะกลายเป็นริ้วรอยของคนและสัตว์นั้นๆ ให้ต้องกลับไปทำกรรมนั้นๆ ซ้ำๆ เหมือนดังล้อเกวียนที่หมุนไปตามรอยเท้าโคฉันนั้น นี่ก็เป็นผลที่เกิดมาจากต้นเหตุ
หรือเหมือนดังบุคคลที่กินหวานมาแต่เล็กๆ พอโตขึ้นมาก็จะนิยมชมชอบของหวาน เช่นนี้ถือว่า เป็นผลที่เกิดมาจากต้นเหตุเช่นกัน
อดีตชาติเคยเป็นคนฉลาดมีสติปัญญาตั้งมั่น ความชาญฉลาด มีสติปัญญาตั้งมั่นเหล่านั้นก็ตกแต่งให้เกิดมาในปัจจุบันเป็นผู้รุ่งเรือง เจริญ ทำ พูด คิด ก็มีเหตุมีผลเป็นที่ยอมรับของชนทั้งหลาย
แม้ที่สุดมูลเหตุของชนกกรรมที่เกิดมาจากความรัก โลภ โกธร หลง มีตัณหา อุปาทานและอวิชชา
ในปัจจุบันขณะนั้นๆ ก็จะเอาแต่แสวงหารัก โลภ โกธร หลง ตัณหา อุปาทาน อวิชชา ต่อๆ ไปเช่นนี้ไม่จบไม่สิ้น
และหากจะหยุดยั้งกงล้อแห่งชนกกรรมดังกล่าวมานี้ เราท่านทั้งหลายจักต้องศึกษาวิถีแห่งกรรม ๑๒ ให้ถ่องแท้ แจ่มชัดยิ่งๆ ขึ้น
วันนี้ขออธิบายขยายความชนกกรรมไว้แต่เพียงเท่านี้ หวังว่าท่านทั้งหลายจะพยายามอ่านให้เข้าใจอย่างแจ่มชัดจนกลายเป็นพละกำลังของสติปัญญาอันแก่กล้าที่รู้ทันการประดับประดาตกแต่งแห่งชนกกรรม
ซึ่งก็จะทำให้สามารถหยุดยั้งกงล้อแห่งชนกกรรมนี้ได้ในที่สุด
เอวังก็วิสัชนามาเพียงเท่านี้ วันหน้าจะนำอุปัตถัมภกกรรมมาอธิบายขยายความให้เข้าใจเพิ่มขึ้น
เจริญธรรม
พุทธะอิสระ