คราวที่แล้วได้หยิบยกเอากรรม ๑๒ มาวิสัชนาแก่ผู้สงสัยไปในระดับหนึ่งไปแล้ว
แต่ดู ดู เหมือนผู้รับรู้รับฟัง ยังจะไม่แจ่มชัดถึงรากเหง้าของกรรมทั้งปวง
วันนี้จึงขอนำกรรมทั้ง ๑๒ อาการ มาอธิบายขยายความให้ท่านทั้งหลายได้เข้าใจ ให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น หรือไม่ บางคนมีสติปัญญากล้าแข็ง อาจรู้สึกสว่าง กระจ่างแจ้งขึ้นมาบ้างก็เป็นได้
วันนี้ขอนำอาสันนกรรม กรรมที่ให้ผลแบบเฉียดฉิว ถากๆ จวนเจียน
อาสันนกรรม ส่วนใหญ่เกิดจากผลแห่งการกระทำที่ไม่มีเจตนา
ถ้าเทียบกับสมัยนี้ ก็ต้องใช้คำว่า ไม่มีเจตนา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และบางครั้งแม้มีเจตนา แต่มีอุปฆาตกรรมก็เข้ามาแทรกแซง ตัดตอนก่อน เจตนานั้นจึงไม่สำเร็จประโยชน์
ผลที่จะได้รับต่อมาก็คือ อาสันนกรรม กรรมที่ให้ผลแบบจวนเจียน เฉียดฉิวนั้นเอง
การให้ผลของอาสันนกรรม มีทั้งฝ่ายกุศลและฝ่ายอกุศล รวมทั้งอัพยากตกรรม เช่น ผู้ประพฤติองค์ฌาน แต่ไม่ถึงองค์ฌานขั้นสูงเสียที ทุกครั้งก็จะมีอาการจวนเจียน เฉียดฉิวจะได้แหล่ไม้ได้แหล่
เช่นนี้ เรียกว่า อาสันนกรรม การที่กรรมให้ผลเช่นนี้อาจเป็นเพราะ เป็นผู้มีอุปนิสัยทำอะไรจับจดไม่จริงจัง จนกลายเป็นผลกรรมติดตามตัวมา
เหล่านี้ คือ อาสันนกรรมฝ่ายกุศล
อีกตัวอย่าง อาสันนกรรมฝ่ายอกุศล นั้นมี ๒ ประเภท คือ
อาสันนกรรมที่เกิดโดยไม่เจตนา เช่น ไม่มีเจตนาจะเดินชนผู้อื่น สิ่งอื่น หรือไม่มีเจตนาจะขับรถชนคนอื่น แต่มันเกิดขึ้นเพราะเป็นอุบัติเหตุ
ซึ่งอันที่จริงก็เกิดจากความประมาท ขาดสติ และอาจเกิดจากทิฏฐธรรมเวทนียกรรม กรรมที่ให้ผลในปัจจุบันนั้นเอง
ผลของการขาดสติ ไม่มีเจตนาเช่นนี้เรียกว่า อาสันนกรรม กรรมที่ให้ผลแบบจวนเจียน เฉียดฉิว
ส่วนอาสันนกรรมฝ่ายอกุศลที่มีเจตนา แต่การกระทำนั้นไม่สำเร็จประโยชน์ดังที่มุ่งหวัง เช่น
ตั้งใจจะยิงสัตว์แต่ไม่โดน หรือสัตว์นั้นหลบหนีไปได้ เช่นนี้ผลที่จะได้รับ คือ อาสันนกรรม กรรมที่ทำให้ จวนเจียน เฉียดฉิว
หรือไม่ก็ยิงโดนสัตว์แบบเฉียดฉิว
เหล่านี้ คือ อาสันนกรรมฝ่ายอกุศลที่ต้องได้รับ
ส่วนอาสันนกรรมฝ่ายอัพยากตกรรม คือ กรรมที่วางเฉย เมื่อใดที่อาสันนกรรมเข้าแทรกแซงให้ผล การวางเฉยนั้นก็เลยเฉยไม่จริง เฉยไม่แนบแน่น เฉยอย่างไม่ตั้งมั่น
ฉะนั้น อาสันนกรรม กรรมที่ให้ผลอย่างจวนเจียน เฉียดฉิว เช่นนี้ ล้วนเกิดมาจากความประมาท ขาดสติ ซึ่งก็มีทั้งตั้งใจและไม่เจตนา
 
พุทธะอิสระ