สืบเนื่อง เรื่องเกิดจากคลับเฮ้าส์
มีผู้ถามเข้ามาเรื่องศรัทธาและตัณหา เมื่อวานได้ตอบอธิบายความเรื่องศรัทธาไปแล้ว
วันนี้ขออธิบายความเรื่องตัณหาที่ท่านถามเข้ามาว่า ตัณหาเป็นต้นเหตุของสิ่งทั้งหลายหรือไม่
ตอบ
ก่อนที่จะรู้ว่าตัณหาเป็นต้นเหตุของสิ่งทั้งหลายหรือไม่
เราควรมาทำความรู้จักความหมายของคำว่าตัณหาให้แจ่มชัดกันเสียก่อน
ในพระพุทธธรรมคำสอนทรงแยกตัณหาเอาไว้ ๓ อย่าง ได้แก่
๑. กามตัณหา คือ ความทะยานอยากในกามคุณทั้ง ๕ อันมี รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ซึ่งเป็นอารมณ์ที่น่าพึงพอใจเรียกว่า อิฏฐารมณ์
๒. ภวตัณหา หมายถึง ความทะยานอยากในสิ่งที่อยู่ในภพภูมิที่ตนเกิด และทะยานยากในภพภูมิอื่นๆ เช่น อยากไปเกิดในสุคติภพ เป็นต้น
๓. วิภวตัณหา หมายถึง ความไม่อยากที่จะเกิด จะเป็น จะมี จะดี จะได้ ในภพภูมิที่ตนอยู่ และในภพอื่นๆ
เมื่อท่านทั้งหลายได้รู้ชัดถึงกระบวนการของตัณหาทั้ง ๓ แล้ว ทีนี้ก็มาถึงคำถามที่ว่า ตัณหาเป็นต้นเหตุของสิ่งทั้งหลายหรือไม่
ตอบว่า
เป็นต้นเหตุของสิ่งทั้งหลายก็ได้ และมิได้เป็นต้นเหตุของสิ่งทั้งหลายก็ได้ เช่น วิภวตัณหา เป็นต้น
เช่นเดียวกัน ศรัทธาก็เป็นต้นเหตุของสิ่งทั้งหลายก็ได้ และเป็นต้นเหตุแห่งการทำลายสิ่งทั้งหลายก็ได้
เช่น เพราะศรัทธาในพุทธธรรม จึงเพียรพยายามปฏิบัติ ฝึกหัดตนจนสามารถหลุดพ้นจากปลักแห่งความทุกข์ทั้งปวง
พุทธะอิสระ